HomePosts Tagged "bangkok" (Page 4)

bangkok Tag

  เริ่มจากน้ำแข็งไสสุดเจ๋งก่อนเลย ลูกหลานไหหลำอย่างเรา เห็นเจ้าน้ำแข็งไสแป้งปั้น ใส่ถั่วลิสงคั่วแบบรูปแรกนี้ก็นึกถึงโบ๊กเกี้ยขึ้นมาเป็นอย่างแรก ถึงจะใกล้เคียง แต่โบ๊กเกี้ยชามนี้ มากับเยลลี่กาแฟ และน้ำเชื่อมฟิกแห้งกับกานพลู นวล ๆ หอม ๆ ซับซ้อนกว่าที่เคยกินทั่วไปมาก แต่ก็ยังทำให้นึกถึง แยบยลอะไรขนาดนี้ [gallery columns="2" size="large" link="none" ids="12129,12135"] แต่ทีเด็ดคือน้ำแข็งไสอีกชาม ที่สดชื่นจากบรรดาผลไม้ฉ่ำน้ำอย่างส้มโอ แตงโม แตงกวา เพิ่มสัมผัสด้วยลูกชิดอ่อน ๆ กับพิสตาชิโอ รวมกันแล้วยกให้เป็นน้ำแข็งไสที่เท่สุดในชีวิตเลยก็ได้ ดีมากฉ่ำมาก และทำหน้าที่ดับกระหายในหลายเลเวลและมิติ แนะนำเลยถ้าใครไม่เกลียดแตงกวา ต้องโดน คอมบิเนชันน้ำแข็งไสมาเหนือขนาดนี้ เราก็อดถามไม่ได้ว่าเป็นมายังไง เลยได้ความว่าเป็นร้านน้องสาวของ Ku Bar นี่เอง แน่นอนว่าลิสต์เครื่องดื่มก็ไม่ธรรมดา เราโดนโทนิคทำเองจาก Ku Bar ท้อปโซดา บีบมะนาว หอม หวานอ่อน ๆ ขมแค่ปลาย ในเมนูยังมีชา

Read More

‘น้ำ’ ในมือเชฟพิม ต่างกับเดวิด ทอมป์สันไหม?เราตอบคำเดียวว่า ต่าง!-เพราะ Nahm เป็นร้านปั้นของเชฟ David Thompson—ที่เปิดมาเกินสิบปี (เปิดครั้งแรกที่ลอนดอน ปี 2001) ติดอันดับได้รางวัลมากมาย ทั้งเป็นร้านอาหารไทยร้านแรก ๆ ที่ได้ดาวมิชลิน (ได้ดาวในไกด์ลอนดอน แล้วพอกรุงเทพฯ มีไกด์ก็ได้ดาวอีก) มีชื่อประดับทั้ง World’s 50 Best Restaurants แล้วก็ยังเคยเป็นที่ 1 ของ Asia’s 50 Best Restaurants ด้วย—ถ้าเราไม่พูดถึง ‘น้ำ’ ในแบบของเดวิด ก็คงจะเขิน ๆ หน่อย ในฐานะที่เคยได้ชิมฝีมือเชฟ ร้านน้ำสมัยเชฟเดวิด-เชฟปริญญ์ (ผลสุข, อดีตหัวหน้าเชฟร้านน้ำ) ในความทรงจำเราคือ อาหารรสจัดจ้าน ไม่ประนีประนอม จะเผ็ด

Read More

ตั้งแต่เริ่มโชว์ด้วย jalapeño cheddar biscuit อุ่น ๆ กราฟอารมณ์เราในมื้อนี้ก็พุ่งไปแบบไม่ตกเลย! - ถึงเราจะชอบการกินเทสติ้งเมนู ด้วยความตื่นเต้นกับสิ่งที่เชฟจะนำเสนอ แถมไม่ต้องคิดวุ่นวายกลัวจะพลาดจานอร่อยในเมนู แต่เราก็ชอบมาก ๆ เวลาที่เชฟที่ทำร้านระดับไฟน์ไดนิง เลือกเปิดร้านอาหารแบบสั่งได้จากเมนู เพราะมันหมายความว่าถ้าเราชอบ เราจะมาได้บ่อยขึ้น ทั้งเพราะว่าเราจะได้กินอาหารฝีมือระดับนั้นราคาที่ไม่แรงเท่าการกินเทสติ้ง และเพราะว่าเราเลือกได้ว่าจะกินแค่ไหนในมื้อนั้น แถมมาคราวหน้ามันก็จะยังมีสิ่งให้เราลองอีก [gallery columns="2" size="large" ids="12066,12071,12086,12081"] ที่พูดมาทั้งหมดจะบอกว่าดีใจที่เชฟ Dan Bark เปิด Caper ขึ้นมาขนาบข้างกับ Cadence - เรียกได้ว่าอยู่ใต้ชายคาเดียวกันเลยก็ไม่ผิด ต่างกันที่ Cadence เสิร์ฟ tasting menu ส่วน Caper เป็นอะลาคาร์ต เชฟแดนทำอาหาร New American มาตั้งแต่ร้านแรกที่มาเปิดที่ไทย (Upstairs at Mikkeller ร้านหนึ่งดาวมิชลินที่ปิดลงไปเพื่อเปิดร้านนี้) ซึ่งเขาพกประสบการณ์จากอดีตร้านสามดาวอย่าง

Read More

สำหรับร้านกาแฟที่เพิ่งเปิด นอกจากคนจะเริ่มแน่นแล้ว อีกสิ่งที่เราสัมผัสได้เมื่อมาเยือน Nana Hunter สาขาใหม่ล่าสุดในเครือร้านกาแฟ-โรงคั่ว NANA Coffee Roaster ก็คือ theme ที่แน่นมาก แสดงออกมาชัดจนเราไม่ต้องสะกิดใครมาถามเลย ถ้าไม่นับรวมชื่อร้าน เราก็ยังไล่ได้ตั้งแต่ลูกโลกยักษ์ที่ห้อยอยู่บนเคาน์เตอร์บาร์สี่เหลี่ยมกลางร้าน ไปจนถึงเมนูที่มีกาแฟให้เลือกกว่าสามสิบรายการ และถาดเสิร์ฟกาแฟที่สลักลายแผนที่ทวีปแหล่งปลูกกาแฟอย่างแอฟริกาและอเมริกาใต้ [gallery columns="2" size="large" ids="12012,12009"] อีกหนึ่งคอนเซปต์ที่ตีคู่ไปด้วยกันคือการแบ่งโปรไฟล์รสชาติกาแฟออกเป็น อดีต ปัจจุบัน อนาคต ให้เลือกได้ว่าชอบกาแฟโทนช็อกโกแลต ถั่ว คาราเมล (แทนกาแฟยุครุ่งเรืองในอดีต) โทนผลไม้ ดอกไม้ (กาแฟที่คนเริ่มดื่มกันในปัจจุบัน) หรือว่ากาแฟละเอียดซับซ้อนขึ้นไปอีก (อนาคต) ให้เลือกวิธีการชงได้ ตั้งแต่ดริปไปจนถึงไซฟอน ที่มีดีกรีแชมป์ไซฟอนเป็นจุดขาย วันที่เราไปแน็ต - กษมา กันบุญ แชมป์ปี 2018 ยืนบาร์ไซฟอนอยู่เองด้วย ส่วนราคาก็อยู่ในช่วง 200-600 บาท โดยตัวที่ราคาสูงสุดคือเมล็ดแชมป์ [gallery columns="2" size="large"

Read More

ถ้าเป็นปีอื่น ช่วงนี้เราน่าจะกำลังเห็นความคึกคักของ Negroni Week แคมเปญดื่มเพื่อบริจาคเงินช่วยองค์กรการสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ ที่แบรนด์เครื่องดื่มส่วนผสมหลักของดริงก์คลาสสิกนี้เป็นตัวตั้งตัวตีเริ่มทำมาหลายปี โดยทั้งบาร์และผู้บริโภคอย่างเราก็มีส่วนร่วมง่าย ๆ กับทุกแก้วของเนโกรนีที่เราสั่ง ร้านจะหักรายได้ส่วนหนึ่งไปบริจาคกับองค์กรที่เลือกไว้ ไม่ว่าเราจะเลือกร้านไปจากเครื่องดื่มหรือจากองค์กรที่จะบริจาคให้ก็เป็นกิจกรรมที่น่ารักมาก ๆ  แต่ใครก็รู้ว่าปีนี้ไม่เหมือนปีไหน จากแคมเปญดื่มเพื่อโลก ทางแบรนด์ Campari ก็เลยหันกลับมาช่วยประคองพี่น้องในวงการกันก่อน เพราะการที่ร้านดื่มเปิดไม่ได้หมายถึงเหล่าสมาชิกในร้านที่ขาดรายได้ ผู้ประกอบการที่อาจมีแต่รายจ่าย ไปจนถึงร้านที่ต้องปิดหรือคนที่ต้องตกงาน เราไม่ผิดหวังเลยที่เห็นแบรนด์นี้ลุกขึ้นมาเล่นใหญ่อีกครั้ง โดยจัดแคมเปญหารายได้มาช่วยบาร์เทนเดอร์ที่ต้องว่างงาน ตื่นเต้นที่ใช้ความเป็น global (เราลองเข้า #shakennotbroken ในอินสตาแกรมแล้วก็เห็นพลังอันเหลือล้น) ทำแคมเปญนี้โดยให้แต่ละประเทศไปร่วมมือกับร้านในประเทศตัวเอง จัดงานในแบบตัวเองที่ยังคงอยู่ในตีมหลัก ขอตบมือให้กับทีมการตลาดของแบรนด์สักหน่อย สำหรับในไทย ที่สถานการณ์ดูน่าเป็นห่วงกว่าหลายประเทศ เขาก็ร่วมกับ 1919 ที่เป็นร้านหลักของแบรนด์ กับบาร์เทนเดอร์มือรางวัลที่เป็นที่รู้จักอย่าง ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ มะขาม-ธรรมาริน คูเปอร์ และ Davide Sambo รับบริจาคในรูปแบบการขายเสื้อ ชุดโคลด์คัตพร้อมเครื่องดื่ม และชุดทำเครื่องดื่มเองที่บ้าน เลือกได้ว่าชอบพอรูปแบบไหน

Read More

ค็อกเทลแมงดา แม่เป้ง หนอนไหม และหนอนด้วงสาคู!-ถือว่าเป็นภาคต่อของเมนู Explorer ก็ไม่ผิด เพราะจากในเมนูที่ Liberation พาออกสำรวจรสชาตินั้นมี แมงดา เป็นส่วนหนึ่งอยู่แล้ว ครั้งนี้นอกจากแมงดาจะมากับส่วนผสมใหม่ ก็ยังพาเพื่อนมาอีกสามตัว สามรสชาติ สามแก้วกันไปเลย “แมลงมักถูกพูดถึงในเรื่องการเป็นแหล่งโปรตีน และอาหารแห่งอนาคต มีการศึกษาเรื่องข้อมูลโภชนาการและการเพาะเลี้ยงเยอะมาก แต่ไม่ค่อยมีใครศึกษาเรื่องรสชาติเลย” โจอี้-กฤษฎ์ ประกอบดี บาร์เทนเดอร์ของร้านลิเบอเรชันเราให้เราฟัง แน่นอนว่าเขา กอฟ-กิติบดี ช่อทับทิม และทีมงานหลังบาร์ที่นี่อาสาศึกษาเรื่องราวรสชาติของแมลงด้วยตัวเอง จนเป็นที่มาของเมนูใหม่นี้ เราเริ่มตื่นเต้นตั้งแต่แก้ว Waterbugs (440 บาท) ที่มาในเวอร์ชัน 2 ใช้เบสเป็น Lanna Thai Spirit ผสมกับแมงดากลั่น และ NAMMON แบรนด์โทนิกไทยที่ทำโทนิกรสแมงดาขึ้นมาสำหรับที่นี่โดยเฉพาะ ถ้าคาดหวังกลิ่นฉุนแบบแมงดา เราว่ามีผิดหวัง เพราะพอกลั่นออกมาแล้วเหลือเฉพาะกลิ่นหอมหวาน แก้วนี้เลยสดชื่นดื่มง่ายสวนทางกับชื่อแมงดาไปเลย ส่วน And An Ant (440 บาท) นี่ฟังแค่ชื่อก็สนุกแล้ว

Read More

'โจ๊กฮ่องกง' คือที่สุดความละมุนที่เราชอบ แต่ครั้นจะบินไปฮ่องกงบ่อย ๆ เพื่อไปกินโจ๊กก็เกินไปหน่อย โชคดีที่ในกรุงเทพฯ เรามีร้านโจ๊กฮ่องกงอยู่หลายร้าน เราเลยอาสาจับมารวมไว้ให้คอโจ๊กไปชิมกัน  สำหรับเรา โจ๊กฮ่องกงมีจุดเด่นที่ความข้น เนียน ต่างจากโจ๊กทั่วไปในบ้านเรา รวมกับความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และรสชาติที่ออกจะละมุน เบา ๆ กว่าโจ๊กไทยที่จะปรุงเค็มลงไปในตัวโจ๊กเยอะกว่า แค่คิดถึงความนุ่มเนียนของข้าวที่เคี่ยวจนฟู บาน ละลายลงไปผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับน้ำต้มข้าวเราก็ท้องร้องโจ๊ก ๆ แล้ว และนี่คือพิกัดร้านที่เราคิดว่าจัดจ้านในย่านกรุงเทพฯ ให้ทุกคนประทังความอยากโจ๊กสไตล์ฮ่องกงได้โดยไม่ต้องเดินทางไกล ส่วนคอโจ๊กคนไหนมีร้านเด็ดในดวงใจที่เรายังไปไม่ถึง บอกต่อกันมาหน่อยนะ! (แล้วเราจะมาอัพเพิ่มเรื่อย ๆ ถ้าใครมีร้านโจ๊กฮ่องกงอร่อย ๆ อยากแนะนำ ส่งเมสเสจมาบอกเราในเพจได้เลย) Golden Bowl โจ๊กอันดับหนึ่งในใจเราของกรุงเทพฯ ที่ครองใจมาหลายปีแบบไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยตัวโจ๊กที่ทั้งหอมข้าวแบบสุด ๆ ตีมาเนื้อเนียน ๆ ข้น ๆ รสชาติอ่อน ๆ ละมุน ตามสไตล์ฮ่องกง และถ้าใครชอบตับด้วยเราขอให้สั่ง เพราะตับที่นี่หั่นชิ้นหนาและลวกมาแบบกำลังสุกพอดี นุ่ม ๆ

Read More

โค้งสุดท้ายสุดสัปดาห์นี้หมดแล้วนะ!-ใครยังไม่ได้ไปงาน Bangkok Design Week 2020 เมื่อสัปดาห์ก่อนไม่เป็นไร สุดสัปดาห์นี้ยังมีเวลาให้แก้มือถึงวันอาทิตย์นี้ ถ้าใครติดตามจะรู้ว่างานมีจัดทั้งเจริญกรุง อารีย์-ประดิพัทธ์ และย่านทองหล่อ-เอกมัย แต่เราว่ายังไงย่านเจริญกรุงก็ยังมาแรง โดยเฉพาะกับงานนิทรรศการ และอินสตอลเลชั่น ถ้าใครยังไม่ได้ทำการบ้านสำหรับย่านเจริญกรุง เรามีจุดเช็คอินสำหรับสายถ่ายรูปมาชี้เป้าที่รับรองว่าดีงามจนไม่อยากให้เทศกาลนี้จบเลย จริงๆ ยังมีสถานที่เช็คอินอีกเยอะที่อยู่ในเจริญกรุงและย่านอื่นๆ ทั่วเมือง ทำเอาเราไปไม่หมดจริงๆ ยังไงลองเข้าไปดูแผนที่รวมได้ที่ลิงก์นี้  แล้วก็เริ่มแพลนได้เลย! One More Thingเป็นหนึ่งนิทรรศการที่เราชอบสุดในงานเลยก็ว่าได้ จากงานออกแบบของสตูดิโอที่ปล่อยลูกบ้าสุดตัวอย่าง 56th Studio ของดีไซเนอร์ ศรัณย์ เย็นปัญญา ก็ได้ฤกษ์ปล่อยแบรนด์ One More Thing Patternbreaker ที่ให้นิยามตัวเองว่าเป็น Pattern Breaker ตัวนิทรรศการนี้เต็มไปด้วยผ้าทอลายกราฟฟิกสุดกวนของศิลปิน โดยเฉพาะงานของ ลักษณ์ ใหม่สาลี วางพาดกันไปมาจนกลายเป็นเหมือนห้องเล็กๆ อยู่ในห้องอีกที แต่ละห้องจะมีบอลกระจกแขวนส่องประกายกระทบลายทำให้ถ่ายรูปสนุกจริงๆ ชั้นสองยังมีกระเป๋าหลากหลายลายวางขายในราคาพิเศษเปิดตัวเฉพาะงาน Bangkok Design Week

Read More

Philtration ไม่ได้ลับตามกระแส แต่ว่าอยู่สุดซอย ชั้นใต้ดิน​ และบรรยากาศดี!- ใครที่ไม่เคยไปซอยเกษมสันต์ 3 หรือเคยได้ยินชื่อร้านอาหารบ้านหมอมี อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบ้านที่เคยเป็นต้นกำหนดยาหมอมีในตำนานจะเปิดให้คนเข้าเยี่ยมชมโดยมีทั้งคาเฟ่ และร้านอาหาร รวมทั้งมินิมิวเซียมด้านหลัง แม้แต่คนที่เคยไปเยี่ยมชมบ้านหลังนี้มาแล้วอย่างเรายังไม่เคยรู้เลยว่าที่นี่มีชั้นใต้ดินอยู่ด้วย แถมตอนนี้ยังมีบาร์เปิดใหม่อยู่ข้างในอีกต่างหาก พอเข้าไปได้ก็พบกับตัวบาร์ที่ทำเราร้องว้าวเบา ๆ กับความสวยแปลกตา ตัวร้านเป็นเหมือนห้องรับรองลับ สไตล์สปีกอีซี มีเก้าอี้หนังสีเขียวเข้มตั้งสง่าอยู่บนพื้นกระเบื้องสไตล์โบราณที่ริ้วรอยเหมือนผ่านกาลเวลามายาวนานพอ ๆ กับตำนานบ้านกว่าร้อยปี ด้านขวาเดินผ่านโค้งประตูโครงเหล็กเผยให้เห็นโซนหน้าบาร์ แต่หากเดินลึกเข้าไปด้านในก็มีโซฟายาวพร้อมพื้นหลังสีเขียวสดชื่นที่สามารถรับรองกลุ่มกว่าสิบคนแบ่งเป็นมุมส่วนตัวได้ ส่วนด้านซ้ายเป็นกำแพงและหน้าต่างที่มีคราบความเก่าเข้ากับเพดานไม้ที่ได้รับการขัดเงาดูแลเป็นอย่างดี ดูก็รู้ว่าดีไซเนอร์ตั้งใจเก็บดีเทลทุกอย่างของห้องนี้ไว้แบบดั้งเดิมจริงๆ นะ-ณชพล เกษมสุวรรณ ทายาทบ้านหมอมีและหนึ่งในหุ้นส่วนร้านเล่าให้ฟังว่า ห้องนี้เดิมเป็นห้องที่หมอมีใช้เป็นที่ปรุงสูตรยาต่างๆ โดยมีคลองแสนแสบด้านหลังเป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการขนส่งออกไปขาย รวมทั้งยาอุทัยหมอมีก็ได้รับการผสมขึ้นที่ห้องใต้ดินนี้ด้วย เลยนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบบาร์ที่มีความเป็นร้านยาโบราณอยู่หน่อย ๆ ส่วนชื่อ Philtration ก็มาจากการคำว่า Philter ที่แปลว่า ยาเสน่ห์ ที่เอามาเล่นกับความเป็นมาของสถานที่ซึ่งเป็นบ้านของนักปรุงยาอย่างหมอมีนั่นเอง ถึงจะเป็นบาร์เปิดใหม่ แต่คนหลังเคาน์เตอร์ก็คือคนคุ้นเคยในวงการบาร์อย่าง Shavinraj Gopinath ที่ใช้ชื่อในวงการว่า The Fairy Godfather ซึ่งมีประสบการณ์ทำคลับดังๆ ในสิงคโปร์อย่าง

Read More

เคยจิบเนโกรนีที่ละลายแล้วแต่ยังอร่อยอยู่ไหม? คลาสสิกเนโกรนีแก้วนี้ที่ 1919 ทำให้เราต้องหันไปถาม เบล-ภารดี เฮดบาร์เทนเดอร์ของร้านว่า อะไรทำให้เนโกรนีบางแก้วอร่อยกว่าแก้วอื่น ทั้ง ๆ ที่เป็นค็อกเทลคลาสสิกสูตร 1:1:1 ที่ดูไม่ซับซ้อนอะไร “นอกจากเหล้าที่เลือกใช้ที่มีผลมาก ๆ แล้ว ข้อสำคัญในการทำเนโกรนีคือการคน เพราะว่าส่วนผสมจะเข้ากันแค่ไหน น้ำแข็งละลายเท่าไร อยู่ที่การคน ซึ่งเป็นขั้นตอนการชงขั้นตอนเดียวของค็อกเทลนี้” อันนี้เรียกว่าเสน่ห์ปลายบาร์สปูนก็คงไม่ผิด นี่แค่เนโกรนีตัวคลาสสิกเราก็ยังตื่นเต้นขนาดนี้ แล้วลองนึกดูว่าในเมนูก็ยังมีทวิสต์อีกหลายตัวให้เลือก ทั้งตัวที่ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ หัวเรือใหญ่ฝั่งเครื่องดื่มของ Foodie Collection กลุ่มร้านอาหารเจ้าของร้านนี้ (รวมถึง Vesper, Il Fumo, La Dotta) นำไปแข่งในรายการ Campari Bartender Competition ที่เขาได้แชมป์ภูมิภาคมา ไปจนถึงตัวที่เอจในถังไม้ ใส่ทรัฟเฟิล และกระทั่งตัวดื่มง่ายสำหรับคนที่ยังไม่อิน ถ้าถามว่า 1919 เขาจริงจังเรื่องเนโกรนีขนาดไหน ก็บอกเลยว่าชื่อ 1919 มาจากปีที่มีเนโกรนีแก้วแรกเกิดขึ้น ผ่านมา 100 ปีพอดี และนอกจากจะเป็นบาร์ที่เน้นค็อกเทลคลาสสิกตัวนี้ ที่นี่ยังเป็นบาร์หลักของ Campari หนึ่งในส่วนผสมหลักของเนโกรนีอีก นอกจากเนโกรนีแล้วยังมีค็อกเทลตัวอื่นที่นำกลิ่นอายอิตาลีมาทวิสต์ ตัวที่ถูกใจเรามากคือ

Read More