Taste of Prachuap 8 เชฟส์เทเบิลของเด็ดเมืองประจวบฯ ที่ควรค่าแก่การไปหัวหินทุกเดือน

ทริปหัวหินเราจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป! 

หลังจากที่เราได้ไปร่วมงานเชฟส์เทเบิลคอนเซปต์ดีงามอย่าง “Taste of Prachuap ทุกความอร่อย มีเรื่องราว” ก็ทำเราเอาแต่มองหาแต่ของอร่อยที่เป็นไอเท็มเด็ดจากจังหวัดนี้แบบไม่รู้ตัว บอกตรงๆ เลยว่าพอเราได้ชิมเมนูไฮไลท์ในวันเปิดตัวแล้วทำเรามือสั่นอยากจองไปกินจานโปรดอีกรอบ

Taste of Prachuap เป็นโปรเจคของ ททท. ที่ทำเอาเหล่าฟู้ดฮันเตอร์ทั้งหลาย รวมทั้งเราต้องตาวาว เพราะเป็นการนำ 8 เชฟไฟแรง ที่มีทั้งเชฟดังในหัวหิน และเชฟจากกรุงเทพฯ ผู้เคยผ่านรายการแข่งขันสุดฮิตอย่างท็อป เชฟ ไทยแลนด์​ หมุนเวียนทำดินเนอร์สไตล์ Chef’s Table ที่เมืองหัวหินเดือนละครั้ง 

แต่จะเป็นเชฟเทเบิลส์เปล่าๆ ก็ไม่สนุก โจทย์ (ที่เข้มข้นประหนึ่งการแข่งขัน) เลยออกมาเป็นการที่เชฟต้องใช้ 8 วัตถุดิบชั้นยอดจาก 8 อำเภอของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มาเป็นไอเท็มหลักในการออกแบบจานอร่อยของแต่ละมื้อ 

8 วัตถุดิบคัดเลือกมาได้แก่ ปลาหมึกแดดเดียว ขนุนทองประเสริฐ มะพร้าวนกคุ่ม หอยนางรมคลองบางนางรม ไข่เค็มใบเตย ปลาอินทรีเค็มกางมุ้ง บัวหลวงสามร้อยยอด และสับปะรดพันธุ์สยามโกลด์

จานที่เราชอบสุดคือจานหวาน “แสงเหนือเมืองปราณ” ของเชฟต้น-พิเชฐ ชุณหวิริยะกุล Captain Chef แห่งร้าน Eureka Beach Cafe Hua Hin ที่ได้วัตถุดิบเป็นปลาหมึกแดดเดียว และตั้งชื่อที่ตั้งจากแสงสีเขียวของเรือหาปลาหมึกส่องยามค่ำคืนในทะเลปราณบุรี

ความสนุกของจานนี้คือการเล่นกับความสงสัยของเราที่ได้กินปลาหมึกแดดเดียวแบบคาวมาแล้ว (และชอบมากๆ) แต่ขนมหวานสีดำขลับของเชฟเต็มไปด้วยลูกเล่นเต็มจานไปหมด ตั้งแต่ซอร์เบต์น้ำมะพร้าวหมึกดำรสละมุน กรุบกรับด้วยครัมเบิ้ลหมึกแดดเดียวอบกรอบเป็นผง อมหวานกับลูกอมหนวดปลาหมึกแดดเดียว ข้าวเกรียบสาคูไข่ปลาหมึกที่ช่วยดึงเค็มมาตัดหวานช่วยให้เราจบจานนี้ไปแบบครบรส 

อีกจานที่เราชอบคือจานคาวอย่าง “ทาโก้ปลาเค็มมุ้ง” ของเชฟเจมส์-พงษกร บุญรักษา เจ้าของ Jamie’s Burger ในกรุงเทพฯ ผู้ได้โจทย์เป็นวัตถุดิบปลาอินทรีเค็มกางมุ้ง แม่พรจิต อำเภอบางสะพานน้อย ซึ่งทำออกมาเป็นเซบิเช่สไตล์สดชื่นที่ได้เนื้อปลาเค็มมายำรวมกับเนื้อปลาอินทรีสด ส่วนอีกอันเป็นน้ำพริกปลาอินทรีเค็มใส่ซาวร์ครีมที่ออกมาสไตล์น้ำพริกอ่องที่เราเสียดายว่ารสอ่อนไปนิดเทียบกับคำแรกที่ออกมาครบรสทั้งเปรี้ยวนำเผ็ดตาม กลิ่นปลาเค็มอบอวลหอมฟุ้งจนอยากขอเพิ่ม!

จริงๆ ทุกจานของเชฟในคอร์สคือดีงามแทบทั้งนั้น เพราะมีความหลากหลายทั้งแนวคิด และเป็นการผจญภัยสำหรับเรามากๆ เพราะคาดเดาไม่ออกเลยว่าแต่ละจาน แต่ละวัตถุดิบจะถูกทำออกมายังไง และเราว่านั่นคือเสน่ห์ของเชฟส์เทเบิลในโปรเจค Taste of Prachuap นี่แหละ ว่าแล้วก็ตามเรามาออกเดินทางไปด้วยกันว่าแต่ละจานจะเป็นยังไงบ้าง

8 วัตถุดิบจากทั้ง 8 อำเภอ ได้แก่ 1. ปลาหมึกแดดเดียว อำเภอปราณบุรี 2. ขนุนทองประเสริฐ สวนขนุนลุงประทีป อำเภอกุยบุรี​ 3. มะพร้าวนกคุ่ม สวนมะพร้าวลุงบูล อำเภอทับสะแก 4. หอยนางรม คลองบางนางรม อำเภอเมืองประจวบฯ 5. ไข่เค็มใบเตย ชุนชนบ้านม้าร้อง อำเภอบางสะพาน 6. ปลาอินทรีเค็มกางมุ้ง แม่พรจิต อำเภอบางสะพานน้อย 7. บัวหลวงจากบึงบัวอำเภอสามร้อยยอด และอันดับ 8 แบบขาดไม่ได้คือสับปะรด! (ประจวบฯ เป็นจังหวัดปลูกสับปะรดมากที่สุดในประเทศ) โดยเป็นพันธุ์สยามโกลด์ จากสวนเพชรรุ่งเรือง​ ในอำเภอหัวหินนี่เอง

โฉมหน้าเชฟทั้ง 8 คน (จากซ้าย) เชฟยอด-พนัส บุญญานัตย์ เจ้าของ ครัวดวงแก้ว หัวหิน เชฟต้น-พิเชฐ ชุณหวิริยะกุล Captain Chef ร้าน Eureka Beach Cafe Hua Hin เชฟพลอย-ฐาติกานต์ ตัณฑจินนะ Top Chef Thailand เชฟต่าย-นัชทกมล สงครามศรี เจ้าของ Tanya’s หัวหิน เชฟแพร์-ณัชชา ตันอนุชิตติกุล Team Chef Thailand เชฟฮูโต๋-เชฎฐ์ภูชิช เถกิงศักดิ์ Head Chef Oceanside Beach Club & Restaurant และ Top Chef Thailand SS1 เชฟเคน-กันตพัฒน์ เอกชาวสวน เจ้าของ Ken’s Bistro หัวหิน และเชฟเจมส์-พงษกร บุญรักษา เจ้าของ Jamie’s Burger กรุงเทพฯ

เปิดหัวขบวนรถไฟแห่งความอร่อยจานแรกกับเชฟยอด-พนัส บุญญานัตย์ จากร้านครัวดวงแก้วในหัวหิน(www.facebook.com/duangkaewcuisine) ที่มาพร้อมกับวัตถุดิบหอยนางรมคลองบางนางรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือเป็นหอยนางรมพันธุ์ใหญ่ รสชาติไม่เค็มเพราะเลี้ยงในคลองปากแม่น้ำ เนื้อสัมผัสกำลังดี​ ไม่นุ่มหรือเด้งเกินไป 

เชฟยอดนำมาสร้างสรรค์ในจานชื่อว่า “ไข่ในหอย” ที่เชฟนำหอยนางรมมาทำเป็นโฟมเอสพูมาใส่ในเปลือกไข่ไก่ จุ่มขนมปังบริยอชกรอบกินเพลินมาก ตัวหอยเชฟนำไปตากแดดเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติ ก่อนนำมาต้มในซุปใส่หอมแดงกระเทียมผัดรวมกันแล้วใส่ครีม เอามากรอง มีเนื้อสัมผัสจากไข่คาเวียร์กับรสเปรี้ยวหวานจากเจลแอปเปิ้ลต้มน้ำตาลและผิวมะนาว เพิ่มความสนุกในความนวลของเนื้อโฟมรสนุ่ม เป็น starter เบาๆ จากวัตถุดิบพื้นบ้านแต่ได้กลิ่นรสตะวันตกมาเต็ม

ต่อด้วยเชฟเจ้าบ้านอย่าง เชฟฮูโต๋-เชฎฐ์ภูชิช เถกิงศักดิ์ หัวหน้าเชฟร้าน Oceanside Beach Club & Restaurant ผู้เข้าแข่งขัน Top Chef Thailand​ SS1 ที่ได้วัตถุดิบเป็นบัวหลวงจากบึงบัวอำเภอสามร้อยยอด จานชื่อว่า  “จงกลจำแลงกาย” ที่เชฟนำส่วนต่างๆ ของดอกบัวหรือ “จงกล” มาแปลงร่าง ไม่ว่าจะเป็นเม็ดบัว กลีบบัว เกสรบัว รากบัว ใบบัว 

ตัวหลักของจานนี้เป็นเนื้อปูทานคู่กับเจลลี่น้ำนมเม็ดบัว ที่เราว่าจานนี้มีหลากรสสัมผัสมาก ไม่ว่าจะเป็นความนุ่มของน้ำนมเม็ดบัวและเนื้อปู ตัดกับความกรอบของเม็ดบัวอบกรอบ เม็ดบัวสด กลีบบัว ไหลบัวสด รากบัวทอด เกสรดอกบัว และกลีบดอกบัวสด ตัวเนื้อปูก็เป็นการนำเอาไหลบัวมาดองแล้วเอามาคลุกกับซอสเป็นสไตล์สลอว์ บอกเลยว่าเราชอบตัวสลอว์มาก รสชาติเข้มข้นกรอบกรุบของไหลบัวและตัวครีม พอเทน้ำนมลงไปรสชาติก็เปลี่ยนเป็นอ่อนลงหน่อย แต่ยังซดตัวครีมนุ่มๆ จนหมดจาน

 

มาถึงจานที่ 3 ชื่อ “มะพร้าวบนหาดทราย” จานนี้วัตถุดิบเป็นมะพร้าวพันธุ์นกคุ่ม จากสวนมะพร้าวลุงบูล อำเภอทับสะแก ที่ได้เชฟแพร์-ณัชชา ตันอนุชิตติกุล อดีตตัวแทนทีมไทยไปแข่งรายการ The Team Chef กับทีมเกาหลีใต้ มาทำจานนี้ที่แม้จะหน้าตาเหมือนของหวาน แต่ก็มีความคาวในตัว

เชฟแพร์นำมะพร้าวพันธุ์นกคุ่มที่มีน้ำหวานหอม เนื้อแน่นมาทำเป็นมูสมะพร้าว ทานคู่กับปูม้าซอสพริกแกงใส่ในถ้วนกระทงทองเคล้ากันไป มีความหวานมันในตัว ส่วนพรีเซนต์เทชั่นก็มาสมชื่อมากๆ ที่เชฟนำมูสมะพร้าวมาใส่ไว้ในกะลาทำจากช็อกโกแลต โรยด้วยครัมเบิลแทนหาดทราย

ต่อไปเป็นคิวของเชฟต่าย-นัชทกมล สงครามศรี เจ้าของ Tanya’s หัวหิน ร้านอาหารไทยรสดั้งเดิมที่เรามักจะเห็นบรรดาเชฟชื่อดังและเหล่าฟู้ดดี้ตัวจริงไปเช็คอินกินอันตลอดเวลา เชฟต่ายมาพร้อมกับวัตถุดิบผลไม้หวานอย่างขนุนทองประเสริฐ สวนขนุนลุงประทีป กุยบุรี เชฟต่ายเลยขอทำเมนูคาวพร้อมชื่อว่า “ขนุนพลิกบทบาท” จากของผลไม้ที่มองว่าเป็นของหวานมาเป็นของคาวกันบ้าง 

เมนูนี้เชฟต่ายขนขนุนมาเป็นส่วนประกอบมากมายตั้งแต่ลูกยันใบ เชฟเลือกทำปิ้งงบขนุนอ่อน​ผสมพริกแกงรสเบา เสิร์ฟคู่กับเม็ดขนุนบดที่ทำหน้าที่เหมือนครัมเบิล กินคู่กับซอสพริกขนุนสุก​ที่เชฟเอาเนื้อขนุนสุกงอมมาดองกับพริกข้ามคืนก่อนนำมาปั่นปรุงรสด้วยเกลือให้รสเปรี้ยวหวานเพิ่มความจี๊ดจ๊าด แต่ที่เราเซอร์ไพรส์กว่ากลับเป็นผักแนมที่เชฟนำใบขนุนมาทอดกินพร้อมคำนี้ด้วย เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าใบขนุนกินได้ ตัวใบจะมีเยื่ออยู่เยอะทำให้เคี้ยวแล้วรู้สึกถึงความใบไม้อยู่มากกว่าความเป็นผักแนม ส่วนรสชาติเราว่าการนำมาทอดเพิ่มความมันนัวในคำได้แปลกดี

 

คอร์สที่ 5 เป็นวัตถุดิบไข่เค็มใบเตยจากชุมชนบ้านม้าร้อง อำเภอบางสะพาน ที่ได้เชฟเคน-กันตพัฒน์ เอกชาวสวน จากร้าน Ken’s Bistro ในหัวหินมาเป็นคนสร้างสรรค์ในชื่อจานว่า “ม้ายังร้อง” ที่เชฟนำไข่เค็มมาปรุงเป็นคานเนลโลนีไส้มูสมาสคาร์โปเนไข่เค็มเนื้อปู กินคู่กับเจลใบเตยมะนาว และไข่แดงเค็มขูดฝอย จานนี้เราว่าเข้าใจง่าย คอมฟอร์ท เหมือนกินพาสต้านัวกลิ่นไข่เค็มจางๆ เนื้อสัมผัสได้ความสากจากเนื้อไข่เค็มหน่อยๆ โบกไข่เค็มฝอยก็ช่วยดันกลิ่นขึ้นมาเยอะเลย

คอร์สที่ 6 “ทาโก้ปลาเค็มมุ้ง” จานเมนที่สองของคอร์ส เป็นของเชฟเจมส์-พงษกร บุญรักษา เจ้าของ Jamie’s Burger ในกรุงเทพฯ ผู้ได้โจทย์เป็นวัตถุดิบปลาอินทรีเค็มกางมุ้ง แม่พรจิต อำเภอบางสะพานน้อย ซึ่งจานนี้เชฟเสิร์ฟเป็นทาโก้ อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดอันโด่งดังของชาวเม็กซิกันนั่นเอง 

เชฟเจมส์ผสมปลาเค็มในทุกองค์ประกอบของจานนี้ เช่นการผสมปลาเค็มกับข้าวโพดมาทำเป็นแป้งตอติญา ส่วนใส้ทำเป็น 2 แบบคือยำปลาเค็มที่ได้ไอเดียจากเซบิเช่ โดยเชฟนำเนื้อปลาเค็มมายำรวมกับเนื้อปลาอินทรีสด ส่วนอีกอันเป็นน้ำพริกปลาอินทรีเค็มใส่ซาวร์ครีมที่ออกมาสไตล์น้ำพริกอ่องที่รสชาติอ่อนสไตล์น้ำพริกอ่อง แต่เราเทใจให้กับทาโก้ยำคำแรกที่สุดทั้งรสชาติ และความสดชื่นออกมาครบรสเปรี้ยวนำ เผ็ดตาม กลิ่นปลาเค็มก็ยังอบอวลหอมฟุ้งจนอยากซ้ำ!

เข้าคอร์สขนมหวานกันแล้ว คอร์สนี้มา 2 จาน เริ่มกันที่ “สับปะรดหวานใจ” ของเชฟพลอย-ฐาติกานต์ ตัณฑจินนะ เชฟสายหวานจากรายการ Top Chef Thailand SS2 ผู้ได้วัตถุดิบเป็นสับปะรดสยามโกลด์ สวนเพชรรุ่งเรือง​ อำเภอหัวหิน 

คุณสมบัติของตัวสับปะรดสยามโกลด์เองจะมีความหวานมากกว่าเปรี้ยว และไม่กัดลิ้น ทำให้กินง่าย เหมาะกับการทานเล่น ส่วนการครีเอทของเชฟพลอยก็จัดสับปะรดมาเต็มจาน เริ่มตั้งแต่ชูว์ครีมไส้ครีมสับปะรด ตักกินกับไอศกรีมคอตเทจชีสสับปะรด เราชอบที่เชฟท็อปจานนี้ด้วยน้ำปลาหวาน และบีทรูทบัลซามิกสปอนจ์เค้ก มีทั้งความหวาน ความเค็ม ความเปรี้ยว ครบรส

มาถึงการเดินทาง Taste of Prachuap จานสุดท้ายซึ่งมาพร้อมกับวัตถุดิบอร่อยที่เราชอบอย่างปลาหมึกแดดเดียว อำเภอปราณบุรี แต่วันนี้ไม่ได้มาในแบบของคาวที่เคยกิน แต่มาในจานของหวาน เลยทำเอาเราอยากรู้หนักว่าจะออกมาเป็นของหวานยังไง?!?

จาน “แสงเหนือเมืองปราณ” จากเชฟต้น-พิเชฐ ชุณหวิริยะกุล Captain Chef แห่งร้าน Eureka Beach Cafe หัวหินควรค่าแก่การเป็นจานฟินาเล่แบบสแตนดิงโอเวชั่นจากเราไปเลย เชฟทำให้เราได้กินปลาหมึกแดดเดียวในแบบของหวาน แต่ยังไม่ทิ้งกลิ่นหอมหวลของความเป็นของคาวในตัวเอง เป็นเหมือนขนมหวานไทยที่มีทั้งหวานตัดเค็ม แสงเหนือเมืองปราณมาจากไฟเขียวๆ จากเรือที่ออกไปตกหมึกทุกวันในยามค่ำคืน เชฟเลยทำของหวานสีดำอย่างซอร์เบต์มะพร้าวหมึกดำ เสิร์ฟคู่ครัมเบิ้ลหมึกแดดเดียว วาซาบิสปริงเกิ้ล ลูกอมหนวดปลาหมึกแดดเดียว เบอร์รี่รวมซาบายอง แต่ที่เราชอบคือข้าวเกรียบสาคูไข่ปลาหมึกที่กินตัดความหวานด้วยความกรอบ เรียกว่าอยากนอกจากจะอยากไปซ้ำจานหวานนี้แล้ว ยังอยากให้เชฟทำข้าวเกรียบไข่ปลาหมึกขายด้วย

 

เดี๋ยวโพสต์หน้าเราจะพาไปชิมวัตถุดิบกันถึงถิ่น ส่วนใครใจร้อนอยากรู้วันดินเนอร์เชฟส์เทเบิลมีวันไหนบ้าง ดูลิสต์ด้านล่างแล้วจองตรงกับทางร้านได้เลย

• 23 เม.ย. เชฟเคน-กันตพัฒน์ เอกชาวสวน เจ้าของ Ken’s Bistro หัวหิน จัดที่ร้าน Ken’s Bistro 18:00 น. โทร. 092-464-6939
• 21 พ.ค. เชฟต่าย-นัชทกมล สงครามศรี เจ้าของ Tanya’s หัวหิน จัดที่ร้าน Tanya’s 18:00 น. โทร. 063-549-4623
• 18 มิ.ย. เชฟเจมส์-พงษกร บุญรักษา เจ้าของ Jamie’s Burger กรุงเทพฯ จัดที่ร้าน Oceanside Beach Club & Restaurant 18:00 น. โทร. 032-531-470
• 10 ก.ค. เชฟต้น-พิเชฐ ชุณหวิริยะกุล Captain Chef ร้าน Eureka Beach Cafe หัวหิน จัดที่ร้าน Eureka Beach Cafe 18:00 น. โทร. 095-251-7729
• 14 ส.ค. เชฟยอด-พนัส บุญญานัตย์ เจ้าของ ครัวดวงแก้ว หัวหิน จัดที่ร้านครัวดวงแก้ว 18:00 น. โทร. 032-655-096
• 17 ก.ย. เชฟพลอย-ฐาติกานต์ ตัณฑจินนะ Top Chef Thailand จัดที่ร้าน Oceanside Beach Club & Restaurant 18:00 น. โทร. 032-531-470
• 10 ธ.ค. เชฟแพร์-ณัชชา ตันอนุชิตติกุล Team Chef Thailand จัดที่ร้าน Oceanside Beach Club & Restaurant 18:00 น. โทร. 032-531-470

Taste of Prachuap Instagram | ททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ Facebook โทร. 032-513885