La Cabra ทำให้เรานึกถึงประโยคว่า One roast fits all เพราะที่นี่เขาใช้เมล็ดกาแฟเดียวกันทั้ง filter และ espresso เลย
ตั้งแต่ก่อนมาที่ร้าน เราก็หาอ่านว่า one roast ที่แบรนด์กาแฟจากเดนมาร์กร้านนี้ชูขึ้นมาเป็นจุดเด่นของกาแฟเขามันคืออะไรกันแน่ พอมาถึง เจอคุณบิว ผู้นำเข้าและดูแลกาแฟที่ร้านทั้งหมด เราก็รีบถาม แล้วก็ตื่นเต้นกับคำตอบมาก
One roast (หรือบางทีเรียกว่า omni roast, single roast) แปลตรงตัวเลยว่าเป็นการคั่วแบบเดียว นั่นก็คือ การคั่วโปรไฟล์เดียวต่อเมล็ดหนึ่งตัว สำหรับชงกาแฟทุกแบบ ถ้าเป็นที่ร้านก็คือทั้งเอสเพรสโซ และฟิลเตอร์ (ดริป) ที่ชงกาแฟได้ทั้งแบบใสและใส่นม สำหรับเราที่คุ้นเคยกับกาแฟที่คั่วมาสำหรับการดริป หรือสำหรับเอสเพรสโซโดยเฉพาะก็รู้สึกว่าน่าสนใจมาก ด้วยวิธีการสกัดกาแฟที่ต่างกัน การคั่วให้ชงออกมาได้ดีทั้งคู่นั้นเลยต้องใช้ความเป๊ะสูงมาก (ไม่งั้นกลายเป็นดีแบบเดียวอยู่ดี)
“ร้านที่เดนมาร์กเขาจะบอกมาเลยว่า สำหรับเอสเพรสโซ เราต้องใช้น้ำยังไง ตั้งเครื่องยังไง เพื่อจะดึงช็อตเอสเพรสโซจากกาแฟของเขาได้ดีที่สุด” คุณบิวย้ำว่าไม่ใช่แค่การคั่วเท่านั้น แต่วิธีการชง หรือการดึงช็อตเอสเพรสโซก็มีส่วน น้ำ อุณหภูมิ เวลา เหมือนเป็นการส่งไม้ต่อมาจากคนคั่วให้คนชงคงความเป๊ะไว้ให้ได้มากที่สุด
ข้ามเรื่องเทคนิคไปถึงกาแฟในแก้ว พอได้ยินเรื่องที่เล่าให้ฟังเมื่อกี้ เราก็ไม่ลังเลที่จะสั่งกาแฟดริป กับช็อตเอสเพรสโซ ของกาแฟตัวเดียวกันมาลอง โดยในช่วงที่เราไปจะมีเคนยากับบราซิลให้เลือก
พอชิมแล้วก็พบว่ากาแฟบ้านนี้รสกลมใช้ได้ เน้นความบาลานซ์เป็นหลัก ที่เราว่ามันทำให้ช็อตเอสเพรสโซน่าสนใจขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับเปรี้ยวโดด ยังคงดึงความหวานออกมาจากเมล็ดได้อยู่ แถมพอใส่นมก็ยังไม่รู้สึกแปลก
เมล็ดกาแฟที่นี่หมุนเวียนไปตามฤดูกาล ที่ว่าตามฤดูกาลก็เพราะแต่ละประเทศก็มีช่วงเก็บเกี่ยวไม่พร้อมกัน เราสามารถซื้อเมล็ดกาแฟกลับไปชงเองที่บ้านหรือเป็นของขวัญได้ด้วย แพ็คเกจเป็นกล่องสีขาวพิมพ์ลายเส้นแพะที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ เรียบง่ายและน่ารักมาก ทั้งยังบอกละเอียดว่าคั่วเมื่อไร เมล็ดตัวนี้ควรเก็บกี่วันจึงจะดีที่สุดในการชงแบบเอสเพรสโซ และกี่วันสำหรับชงแบบฟิลเตอร์
นอกจากกาแฟแล้ว ที่ร้านก็ยังมีเครื่องดื่มอย่างชาเขียวและน้ำส้มยูซึสำหรับคนไม่ดื่มกาแฟด้วย
อีกอย่างที่เราอยากพูดถึงคือตัวร้าน ที่รวมเอาความเรียบง่ายมีสไตล์แบบนอร์ดิกมาผสมกับความสบายแบบไทย ๆ อย่างตั่งตัวเตี้ยที่หน้าร้าน หรือโครงสร้างตึกแถวที่ไม่ได้ถูกทำให้เนี้ยบไปเสียหมด มีโซนโอเพ่นแอร์ทั้งหน้าร้าน หลังร้าน และด้านบน สำหรับเราคือถ้ามีวันอากาศดี ๆ มาเมื่อไรเราก็อยากพุ่งตัวไปจิบกาแฟอุ่น ๆ เคล้าบทสนทนาดี ๆ ที่นี่เลยล่ะ
La Cabra Bangkok
813 ถ.เจริญกรุง (ระหว่างซอย 29 กับ 31)
เปิดวันอังคาร-ศุกร์ 8:00-17:00 น. เสาร์-อาทิตย์ 9:00-18:00 น.
โทร. 083-652-6666
www.facebook.com/lacabra.thailand
ไปฟังเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่มกับเราก่อนใครได้ที่ Facebook และ Instagram กดติดตามไว้เลย!