Bite Me Softly คาเฟ่อร่อยและดีต่อใจในเมืองเก่า

เวลาใครถามหาร้านเค้กออนไลน์ Bite Me Softly มักเป็นชื่อแรก ๆ ที่เราแนะนำบ่อยครั้ง ไม่ใช่แค่สั่งออนไลน์มาส่งถึงบ้านอย่างเดียว แต่เราก็พบเจอขนมเจ้านี้ในคาเฟ่และร้านอาหารที่วางใจหลาย ๆ ร้าน นี่เป็นเหตุผลที่เราดีใจเป็นพิเศษ เมื่อได้ยินว่าแบรนด์ขนมที่ซุ่มเชียร์หลายปีได้ฤกษ์เปิดร้านของตัวเอง

และถึงแม้จะไม่เคยชิมอาหารฝีมือเช้า-ต่อจันทน์ แคทริน บุณยสิงห์ เชฟเจ้าของร้าน แต่หนังสือสูตรอาหารสองเล่มและบรรดาพายต่าง ๆ ที่เธออบขายออนไลน์ก็ยั่วยวนจนเราไปถึงบ้านในตรอกหนึ่งบนถนนพระสุเมรุ

 

 

 

แล้วเราก็ไม่ผิดหวัง

 

เพราะที่นี่ เชฟสาวตัวเล็กตั้งใจใช้ความสามารถที่เธอมี รวมกับความรู้ที่ขวนขวายหามาอย่างเต็มที่ และใจที่อยากให้คนกินได้รับแต่สิ่งดี ๆ ออกมาเป็นคาเฟ่ดีต่อใจที่ฝากท้องไว้ได้ทั้งกับอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม

 

ยิ่งฟังเรื่องของเธอเราก็ยิ่งสนใจ เธอเริ่มเข้าครัวตั้งแต่หัวยังไม่พ้นขอบหม้อ ช่วยที่บ้านเตรียมอาหารตั้งแต่เด็กผัก คนหม้อ จนกระทั่งอายุได้สิบเอ็ดปีก็เริ่มหัดทำขนมเองเป็นครั้งแรก และทำมาเรื่อย ๆ ถึงแม้พอจบมัธยมจะไม่ได้เข้าเรียนทำอาหารดั่งใจ เพราะครอบครัวไม่เห็นด้วย แต่หลังจากเรียนจบปริญญาโทด้านการตลาดและทำงานหาเงินได้เอง เช้าก็ตัดสินใจเริ่มต้นเส้นทางสายอาหารของตัวเองด้วยการเข้าเรียนที่เลอ กอร์ดองเบลอ จนกระทั่งสมัครงานได้ในบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมอาหาร หลังจากนั้นต่อจันทน์ก็เข้าสู่วงการอาหารอย่างเต็มตัว

 

ไม่น่าเชื่อว่า Bite Me Softly เกิดขึ้นมาได้เจ็ดปีแล้ว เริ่มจากการใช้เวลาว่างจากงานของเธอ ขายผ่านช่องทางออนไลน์ ขยับขยายไปถึงการทำส่งให้หลาย ๆ ร้าน จนเธอลาออกจากงานประจำมาทำอย่างเต็มตัว เพราะมีฐานลูกค้าแน่นหนา ผู้ติดใจในการ “ทำของเบสิกไม่ให้เบสิก” ในสไตล์เชฟเช้า

 

เค้กแครอต

เค้กแครอต

 

เธออธิบายการทำของธรรมดาไม่ให้ธรรมดาด้วยลักษณะเฉพาะของอาหารแต่ละอย่างที่เธอมีอยู่ในใจ และจะใช้เวลาปรับสูตรจนได้ในแบบที่ต้องการ อย่างคำจำกัดความบราวนี่ในแบบของเช้าคือ เนื้อต้องแน่น รสช็อกโกแลตต้องเข้มข้น เมื่อเย็นเนื้อต้องหนึบ และเมื่ออุ่นเนื้อต้องย้วย และเธอก็ทำบราวนี่ของเธอออกมาเป็นแบบนั้น พร้อมทั้งควบคุมคุณภาพให้สม่ำเสมอ เช่นเดียวกับเค้กแครอต ที่เนื้อเค้กฉ่ำ ไม่แห้งแต่ไม่แน่นเกินไป ผสมผิวส้มให้รสชาติสว่างขึ้น แล้วเสริมด้วยฟรอสติงครีมชีสเนื้อหนา แบบอเมริกันสไตล์ ที่เราคนรักเค้กแครอตได้แต่ชิมไปพยักหน้าเห็นด้วยไป

 

“เช้าชอบทำอาหารมากกว่า เพราะว่ามีมิติให้เล่นเยอะ ขนมทำง่ายกว่าเพราะทำสูตรหนเดียวเสร็จ แต่อาหารทำแล้วต้องชิมทุกครั้ง”

 

ในการรับรู้ของเรา เชฟเช้ามักเชื่อมโยงกับขนมหวานมากกว่าอาหารคาว แต่นอกจากเธอจะยืนยันด้วยคำพูด และเมนูอาหารที่มีสัตส่วนอาหารไม่น้อยไปกว่าขนม อาหารในเมนูของเธอก็ยังไม่ใช่อาหารแบบที่เราหาได้ตามคาเฟ่ทั่วไป ถามต่อจึงรู้ว่าเธอสนใจอาหารตะวันออกมากเสียจนลงมือเรียนภาษาจีน เพื่อจะเข้าใจคำศัพท์พื้นฐานและพอสื่อสารได้ ก่อนจะตระเวณไปในหลายพื้นที่ของจีน เพื่อศึกษาเรื่องรสชาติและเครื่องปรุงต่าง ๆ เพราะเธอพบว่ารากของอาหารตะวันออกมากมายนั้นมาจากจีน เธอยกตัวอย่างพริกลาบทางเหนือของบ้านเรา ที่มีส่วนผสมหลายอย่างซ้อนทับกับเครื่องเทศหม่าล่า หากนำส่วนผสมมาเพิ่มนิดตัดหน่อยก็กลายเป็นสิ่งเดียวกัน

 

กฎของร้านนี้คือห้ามใช้วัตถุสังเคราะห์ปรุงแต่งอาหาร จึงเน้นอาหารที่ทำเองตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นเต้าหู้ทำสดจากถั่วลิสง เส้นเหลียงเฟิ่นจากแป้งถั่วเขียว (ที่เธอบอกคล้ายข้าวแรมฟืนทางเหนือ) ไปจนถึงเครื่องเทศหมักหมูแดงที่ได้สีแดงจากอังคักจริง ๆ และเครื่องเทศหม่าล่าที่ใช้วัตถุดิบจากจีนมาผสมในสูตรของเธอเอง

 

ข้าวหมูแดง

ข้าวหมูแดง

 

เราตัดสินใจสั่งข้าวหมูแดง (160 บาท) มาชิม หลังจากเล็งพายหมูแดงในเพจของร้านมานาน ก่อนจะได้ชิม ก็มียำสายบัวถ้วยเล็กมาเสิร์ฟให้ ในชุดยังมีน้ำซุปหอมหวานลอยไชเท้านุ่ม ก่อนจะมาถึงดาวเด่นคือข้าวหมูแดงจานใหญ่ ที่ข้าวเรียงเม็ดสวยโรยงาขาว หมูชิ้นหนา เนื้อนุ่ม รสชาติมีความซับซ้อนกลมกล่อม พร้อมน้ำราดข้น ๆ เต็มไปด้วยรสชาติของเครื่องเทศ ที่ไม่หวานหรือหนืดเกินเหมือนหลาย ๆ เจ้า และที่แสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดแบบสุด ๆ คือเหล่าเครื่องเคียงอย่างแตงกวากับต้นหอมกรอบ ๆ และไข่เป็ดยางมะตูม ที่เชฟแปะใบผักชีไว้ก่อนนำไปต้มในซีอิ๊วจนขึ้นสีเป็นลายน่ารัก

 

ชาเบลนด์ต่าง ๆ

ชาเบลนด์ต่าง ๆ

 

จากการเดินทางศึกษาอาหารจีนก็ทำให้เธอสนใจชาไปด้วย ความต้องการให้คนได้ชิมชาเบลนด์ของเธอเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เช้าตัดสินใจเปิดหน้าร้าน แน่นอนว่าวัตถุดิบการเบลนด์ชาที่นี่เป็นบรรดาดอกไม้แห้งแท้ ไม่เติมแต่งกลิ่นสังเคราะห์ สำหรับเราพอได้ยินชื่อชาเก๊กฮวย 4 ชนิด ก็หูผึ่ง มีทั้งเก๊กฮวยดอกเหลืองใหญ่ ดอกเล็ก ดอกสีขาว และเก๊กฮวยเลือดสีออกแดง ที่ให้กลิ่นและรสต่างกัน รวมกันเป็นเก๊กฮวยเข้มข้น กลิ่นหอมหวาน ติดขมนิด ๆ ดื่มแล้วชุ่มคอชื่นใจ

 

ชาเก๊กฮวย 4 ชนิด

ชาเก๊กฮวย 4 ชนิด

 

ใครอ่านแล้วอดใจไม่ไหว เราแนะนำให้จองโต๊ะก่อนเข้าไป เพราะนอกจากตัวร้านพื้นที่ไม่ใหญ่แล้ว เชฟเองก็มีฐานแฟน ๆ อยู่ไม่น้อยเลยล่ะ

 

 

Bite Me Softly

ที่อยู่: 1/1 ตรอกไก่แจ้ ถนนพระสุเมรุ

เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ 10:00-17:00 น. (แต่ถ้าอยากกินหลังจากนั้นให้รวมเพื่อนมาให้ได้ 4 คน)

www.facebook.com/bMeSoftly

Written by

Yong is a co-founder/editor at Spreads and a craft chocolate enthusiast. She firmly believes in making informed decisions about what we eat, with knowledge and awareness at the core. She also loves taking photos of her food. Some of them can be found on her IG: @yongsans

No comments

LEAVE A COMMENT