เพราะว่าร้านขนมอร่อย ๆ จะมีสักกี่ร้านก็ไม่เคยพอ!
และยิ่งเป็นคนคุ้นเคยอย่างเชฟเปเปอร์-อริสรา จงพาณิชกุล เปิดร้านขนมโดยเฉพาะขนาดนี้ ก็รับรองได้ว่าทั้งความอร่อยและความน่ารักไม่เป็นรองใคร แต่ก่อนที่เราจะพาไปทำความรู้จักกับประวัติที่น่าตื่นตาตื่นใจของเธอ ตามมาชิมขนมของร้าน ICI กันก่อนแล้วกัน
หลังจากตกลงได้วันเวลาที่จองร้านแล้ว เชฟก็ส่งเมนูขนมมาให้เลือกล่วงหน้า ใช่! ร้านนี้นอกจากจะต้องจองโต๊ะล่วงหน้าก่อนไปกิน ก็ต้องสั่งขนมไว้ก่อนเลยด้วย เพราะเชฟจะได้กะเวลาและปริมาณของที่ต้องทำ ทำให้เราได้กินขนมที่อร่อย ในช่วงเวลาที่มันอร่อยที่สุด นึกภาพชูกรอบ ๆ ที่ตากลมทิ้งไว้นานจนเหนียว หรือบีบครีมใส่ไว้นานจนเละ ก็คงไม่ค่อยน่ากินเท่าไรแล้ว
พูดได้เลยว่าขนมที่นี่มีดีที่หน้าตา เพราะตั้งแต่เชฟส่งเมนูมาให้ดู เราก็เสพอาหารตาจนแทบเลือกไม่ถูกแล้ว แต่พอเลือกได้แล้วไปชิมจริง ๆ ก็พบว่า ไม่ได้มีดีแค่ที่หน้าตาอย่างเดียว
ตั้งแต่ Yuzu Cornet (225 บาท) ไอศกรีมโคนหลอก ๆ ที่จริง ๆ เป็นทาร์ตส้มยูซึ เชฟเลือกทำออกมาเป็นแนวตั้งแทนทรงทาร์ตแบน ๆ ตามปกติ แล้วปาดทับด้วยเมอแรงก์เผาไฟพอให้มีสี แนวเดียวกับทาร์ตเลมอนที่เคยเห็นบ่อย ๆ นั่นแหละ แต่ความพิเศษไม่ได้จบอยู่ที่การทำเป็นทรงใหม่ เพราะพอกัดเข้าไป ที่เราคิดว่าเป็นแค่ทาร์ตยูซึก็ผิดถนัด เพราะไส้ด้านในเป็นการรวมผลไม้ตระกูลซิตรัส ที่ให้มิติทั้งจากรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ต่างกันของกานาชยูซึ ครีมเลมอน และแยมส้มแทนเจอรีน ใครสายเปรี้ยวอมหวาน สนุกสดชื่น ตัวนี้พลาดไม่ได้เลย
ส่วน Monsieur Religieux (195 บาท) ก็แสดงความขี้เล่นของเชฟออกมาด้วยการใส่หมวกคุณชายให้ชูว์ลูกเล็กใหญ่ที่ซ้อนกันสองชั้น น่ารักน่าหมั่นไส้จนเราอยากใส่หนวดเพิ่มให้ ในชูว์มีไส้ถึงสามอย่าง ทั้งคาราเมลมาสคาร์โปเน่ เพสทรีครีมวานิลลา และซอสบัตเตอร์สกอตช์ กัดเข้าไปก็ได้ทั้งความนุ่มของครีม ความหนักแน่นของครีมชีสและความมันหอมของคาราเมล เปลือกชูว์พอมีเนื้อให้เคี้ยว กัดพร้อมกันกับคาราเมลกรอบที่ราดไว้ด้านบนเพิ่มสัมผัส นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าทำไมร้านต้องให้จองไปก่อน เพราะถ้าทิ้งไว้นานไป แป้งชูว์ส่วนที่โดนครีมเละ แล้วส่วนที่โดนคาราเมลเหนียว แค่คิดก็ไม่อยากเอาเข้าปาก
ใครชอบมาการอง (85 บาท) ขอให้มาลอง เพราะของที่นี่เป็นชิ้นหนาใส่ไส้แบบดับเบิล มีทั้งครีมและไส้แบบที่มีเท็กซ์เจอร์อื่นเพิ่มเข้ามา ทั้งไส้ไข่เค็มที่มีเนื้อไข่แดงเค็ม ไส้เนยถั่วที่มีทั้งครีมเนยถั่วและเนยถั่วจริง ๆ ไส้ช็อกโกแลตคุกกี้ ที่มีสอดไส้คุกกี้ชิ้นจิ๋วเข้ามาให้เคี้ยวกรุบ และไส้เลมอนที่มีทั้งมาร์ชแมลโลวกับเค้กชิ้นจิ๋วอยู่ตรงกลางระหว่างเปลือกมาการองสองข้าง
อีกอย่างที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่คือซันเดย์โถใหญ่ ที่ใส่ทั้งไอศกรีมและเครื่องแบบไม่ยั้ง เราโดน Classic Never Dies (1,690 บาท) ที่มีทั้งไอศกรีมช็อกโกแลต วานิลลา คาราเมล มะพร้าว กล้วย มากันแบบลูกโต ๆ พร้อมบราวนี่และเค้กหั่นเต๋า ชูว์ลูกเล็ก และเพสทรีครีมแบบไม่ยั้ง ซันเดย์อีกอันที่เราแนะนำสำหรับสายเกาลัดก็คือ Petit Mont Blanc (590 บาท) ที่เสิร์ฟมาในทรงภูเขาปกคลุมหิมะสีขาวโพลน และสายไหมสีขาวเหมือนปุยเมฆ ด้านในเป็นไอศกรีมเกาลัด อัดมากับบัตเตอร์เค้กและแป้งทาร์ต มีซอสแบล็กเคอร์แรนต์ให้ราดตัดรสอีกทีหนึ่ง ใครชอบกินเค้กมงบลังก์อยู่แล้วคือต้องโดน!
ด้านเครื่องดื่มก็ไม่น้อยหน้า ตั้งแต่ช็อกโกแลตร้อน (165 บาท) ที่มีคุณหมีมาร์ชแมลโลวนอนลอยสบายใจเฉิบ ไปจนถึง Butterscotch Milk (195 บาท) ซึ่งมาพร้อมไอติมข้าวโพดที่ทำเป็นทรงข้าวโพดเสียบมาเป็นแท่งวางไว้ข้างบน อันนี้ถ้าขายแยกเราก็ซื้อ!
อ่านมาถึงตรงนี้ถ้ายังงงว่าเชฟเปเปอร์เป็นใคร ในเมนูยังมีขนมจัดจานอย่าง Starfish (450 บาท) ที่เคยขึ้นโต๊ะกาล่าดินเนอร์ของงานประกาศรางวัลมิชลินเมื่อต้นปีนี้กันมาแล้ว แถมยังมีทาร์ตพิสตาชิโอที่เชฟใช้ไปแข่งงาน Pastry Queen รอบสุดท้ายที่อิตาลีเมื่อปีที่แล้วอีก เรียกได้ว่าดีกรีของเชฟสาวไม่ธรรมดา เพราะควบตำแหน่งหัวเรือใหญ่ครัวของหวานร้านอิษยาและร้านสวรรค์ สองร้านที่มีชื่อเสียงในระดับ Asia’s 50 Best Restaurants และติดดาวมิชลินในไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ด้วย
นอกจากงานในวงการของหวาน เปเปอร์ก็ยังเคยมีผลงานในฐานะนักวาดภาพประกอบ (ตามไปส่องได้ในเพจ This Paper) ถึงขั้นมีสติกเกอร์ไลน์เป็นของตัวเองตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่ไลน์เปิดให้ทำสติกเกอร์ เราจึงไม่แปลกใจที่ขนมของเชฟสาวคนนี้จะน่ารักกุ๊กกิ๊กเป็นพิเศษ
ก่อนกลับอย่าลืมสำรวจรอบบ้านอิซิ จะเห็นความน่ารักขี้เล่นและยียวนของเชฟในภาพล้อเลียนงานศิลปะที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ทั้ง โมนาลิซ่าของดาวินชี The Thinker ของ Rodin และหมาลูกโป่งของ Jeff Koon ที่มาพร้อมขนมต่าง ๆ ของร้านนี้ในภาพ
งานนี้ทั้งอร่อยและสนุกในที่เดียว!
ICI
ที่อยู่: 24 ซอยสุขุมวิท 27
โทร. 02-007-3113
เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ 10:00-18:00 น. (จองล่วงหน้าเท่านั้น)