HomePosts Tagged "restaurant"

restaurant Tag

ฤดูกาล BK Restaurant Week วนกลับมาอีกปี ปีนี้เราเลือกมาลองร้านใหม่อย่าง Salvia ร้านอาหารอิตาเลียนน้องใหม่ในโรงแรม Grand Hyatt Erawan บอกตรงนี้เลยว่า นางให้ 4 คอร์สตามแบบฉบับมื้ออาหารของชาวอิตาลีเป๊ะ อิ่มและคุ้ม มานั่งที่โต๊ะได้ไม่นาน ร้านก็เอาใจเราไปเต็มสิบ ด้วยขนมปัง focaccia ที่เสิร์ฟมาอุ่น ๆ มีขอบกรอบบาง เนื้อในนุ่มเหนียว หอมและเค็มนิด ๆ ยิ่งพอมาเจอกับขวดน้ำมันมะกอกเซรามิกเพนต์ลายน่ารักบนโต๊ะ ร่วมด้วยน้ำส้มสายชูบัลซามิกอร่อย ๆ จาก Modena เรียกได้ว่าสำหรับสายคาร์บอย่างเราคือฟินมาก กลับบ้านตอนนี้ไม่เสียเที่ยวแล้ว และนั่นคือก่อนที่มื้อจริง ๆ จะเริ่มด้วยซ้ำ สำหรับเมนู BK Restaurant Week ในแต่ละคอร์สจะมีให้สองตัวเลือก (ราคา 1,000++ บาท) เราไปสองคนก็เลยได้ชิมครบทุกอย่าง [gallery columns="2" size="large"

Read More

‘น้ำ’ ในมือเชฟพิม ต่างกับเดวิด ทอมป์สันไหม?เราตอบคำเดียวว่า ต่าง!-เพราะ Nahm เป็นร้านปั้นของเชฟ David Thompson—ที่เปิดมาเกินสิบปี (เปิดครั้งแรกที่ลอนดอน ปี 2001) ติดอันดับได้รางวัลมากมาย ทั้งเป็นร้านอาหารไทยร้านแรก ๆ ที่ได้ดาวมิชลิน (ได้ดาวในไกด์ลอนดอน แล้วพอกรุงเทพฯ มีไกด์ก็ได้ดาวอีก) มีชื่อประดับทั้ง World’s 50 Best Restaurants แล้วก็ยังเคยเป็นที่ 1 ของ Asia’s 50 Best Restaurants ด้วย—ถ้าเราไม่พูดถึง ‘น้ำ’ ในแบบของเดวิด ก็คงจะเขิน ๆ หน่อย ในฐานะที่เคยได้ชิมฝีมือเชฟ ร้านน้ำสมัยเชฟเดวิด-เชฟปริญญ์ (ผลสุข, อดีตหัวหน้าเชฟร้านน้ำ) ในความทรงจำเราคือ อาหารรสจัดจ้าน ไม่ประนีประนอม จะเผ็ด

Read More

เคยจิบเนโกรนีที่ละลายแล้วแต่ยังอร่อยอยู่ไหม? คลาสสิกเนโกรนีแก้วนี้ที่ 1919 ทำให้เราต้องหันไปถาม เบล-ภารดี เฮดบาร์เทนเดอร์ของร้านว่า อะไรทำให้เนโกรนีบางแก้วอร่อยกว่าแก้วอื่น ทั้ง ๆ ที่เป็นค็อกเทลคลาสสิกสูตร 1:1:1 ที่ดูไม่ซับซ้อนอะไร “นอกจากเหล้าที่เลือกใช้ที่มีผลมาก ๆ แล้ว ข้อสำคัญในการทำเนโกรนีคือการคน เพราะว่าส่วนผสมจะเข้ากันแค่ไหน น้ำแข็งละลายเท่าไร อยู่ที่การคน ซึ่งเป็นขั้นตอนการชงขั้นตอนเดียวของค็อกเทลนี้” อันนี้เรียกว่าเสน่ห์ปลายบาร์สปูนก็คงไม่ผิด นี่แค่เนโกรนีตัวคลาสสิกเราก็ยังตื่นเต้นขนาดนี้ แล้วลองนึกดูว่าในเมนูก็ยังมีทวิสต์อีกหลายตัวให้เลือก ทั้งตัวที่ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ หัวเรือใหญ่ฝั่งเครื่องดื่มของ Foodie Collection กลุ่มร้านอาหารเจ้าของร้านนี้ (รวมถึง Vesper, Il Fumo, La Dotta) นำไปแข่งในรายการ Campari Bartender Competition ที่เขาได้แชมป์ภูมิภาคมา ไปจนถึงตัวที่เอจในถังไม้ ใส่ทรัฟเฟิล และกระทั่งตัวดื่มง่ายสำหรับคนที่ยังไม่อิน ถ้าถามว่า 1919 เขาจริงจังเรื่องเนโกรนีขนาดไหน ก็บอกเลยว่าชื่อ 1919 มาจากปีที่มีเนโกรนีแก้วแรกเกิดขึ้น ผ่านมา 100 ปีพอดี และนอกจากจะเป็นบาร์ที่เน้นค็อกเทลคลาสสิกตัวนี้ ที่นี่ยังเป็นบาร์หลักของ Campari หนึ่งในส่วนผสมหลักของเนโกรนีอีก นอกจากเนโกรนีแล้วยังมีค็อกเทลตัวอื่นที่นำกลิ่นอายอิตาลีมาทวิสต์ ตัวที่ถูกใจเรามากคือ

Read More

[ร้านปิดแล้ว] ร้านน่ารักที่จับอาหารคุ้นเคยหลากวัฒนธรรมมาทำให้อร่อยและสนุก ใครชอบกิน bao อย่าพลาดเปาทอดกรอบชิ้นพอดีคำ มากับเนื้อเป็ดฉีกฉ่ำ ๆ ราดซอสพริกรสตัดกันนิด ๆ เราเรียกสิ่งนี้ว่า perfect combination!- จะว่าเราตามเชฟนิก-กฤษฏา จินตกานนท์ มาก็ไม่ผิดนัก เพราะเราได้ชิมฝีมือเชฟหนุ่มคนนี้มาตั้งแต่ร้าน Shuffle สมัยอยู่ที่ Rain Hill จนไปเปิดร้านใหม่ในชื่อ White Shuffle ที่ Central East Ville ก่อนพาย้ายกลับมาอยู่ Seen Space สักพัก และล่าสุดขยับซอยอีกหน่อยมาที่ร้าน San แต่ครั้งนี้เชฟนิกไม่ได้มาคนเดียว ยังมีเชฟแนน-สุภรา จินตกานนท์ และเชฟ Jacob Bowser มาเพิ่มมิติของรสชาติให้กับอาหารที่นี่ด้วย สเปซเล็ก ๆ ของร้านจัดไว้อย่างน่ารัก ตั้งแต่โซนติดกระจกด้านหน้าเปิดให้แสงธรรมชาติเข้ามาขับสีอาหารให้สวยเด้ง ก่อนจะถึงเคาน์เตอร์ครัวตัวยาวให้เรานั่งกินไปดูบรรดาเชฟทำอาหารไปได้พร้อมกัน แน่นอนว่าถ้ามาช่วงเช้า มุมโปรดเราคือฝั่งหน้าร้านเลย เพราะมีเชฟสามคน

Read More

เขาว่ากันว่าคนที่มีอะไรคล้ายกันจะดึงดูดกัน ในเคสนี้เราว่าจริงตามนั้น เพราะความจริงจังด้านพาสตาของลาดอตต้า (La Dotta) ดึงดูดหัวใจรักพาสตาของเรามายังร้านน้องสาวที่คลอดตามกันมาติดๆ อย่าง ลาดอตตา ลากราสซา (La Dotta La Grassa) ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นน้องสาว แต่น้องคนนี้ไม่ธรรมดา เพราะนอกจากจะมีพื้นที่กว้างขวางกว่าแล้ว ยังมีความสวยแกลม น่ารักขี้เล่นขึ้นอีกหลายขุม ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงเรียกได้ว่ามีความซับซ้อนน่าค้นหาคนหนึ่งเลยทีเดียว ไล่ตั้งแต่หน้าร้านโทนสีน้ำเงินสดตัดชมพูอ่อนด้านในร้าน แซมด้วยความแวววับของเครื่องประดับสีทอง กับการสะท้อนของกระจกและหน้าต่าง ก่อนจะประกาศความขี้เล่นก๋ากั่นออกมาอย่างไม่เหนียมอายด้วยไฟนีออนสีชมพูสด! มาตอนกลางวันได้ลุกใส ๆ แต่กลางคืนเธอก็จะแซ่บได้เหมือนกัน แน่นอนว่าเธอไม่ได้ดูสลับซับซ้อนขึ้นแต่เฉพาะภายนอกเท่านั้น แต่รวมถึงเมนูอาหารที่หลากหลายขึ้นมากจากร้านพี่สาว จนเรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารอิตาเลียนเต็มรูปแบบที่ครอบคลุมอาหารทั้งมื้อเช้า กลางวัน เย็น ด้วยเวลาเปิดร้านที่ยาวตั้งแต่หกโมงครึ่งไปจนถึงห้าทุ่ม นี่ยังไม่รวมว่าถ้าไม่หิวเท่าไรแต่กระหายแอลกอฮอล์ขึ้นมาก็มานั่งดริงก์กันได้ทั้งไวน์และค็อกเทลด้วย แต่ทั้งหมดทั้งมวล ทีเด็ดของร้านยังอยู่ที่พาสตา โดยโลโก้ร้านนี้เป็นพาสตาคองคิเย (conchiglie) รูปเปลือกหอย ที่บอกใบ้เราเป็นนัย ๆ ถึงพาสตาทำเองของร้าน ซึ่งมีมากกว่าพาสตาสดทำมือของร้านลาดอตตา (ที่ใช้โลโก้เป็นรูปตอร์เตโลนี [tortelloni] พาสตาห่อไส้) โดยร้านใหม่ได้อิมพอร์ตเครื่องทำพาสตายี่ห้อ La Monferrina มาจากอิตาลี ที่เขาว่าเป็นระดับเฟอร์รารีของวงการเครื่องทำพาสตาโดยใช้แป้งที่เลือกมาพิเศษจากอิตาลี ฟังแค่นี้เราก็ตื่นเต้นแล้ว พอมาชิมจริง ๆ ยิ่งตื่นเต้นกว่า

Read More

เวลาจะหาร้านกินย่านเมืองเก่า ร้านรวงต่างๆ ก็มักกระจุกตัวอยู่ตามถนนที่เราคุ้นเคย เช่นย่านถนนดินสอ ถนนพระสุเมรุ ถนนพระอาทิตย์ หรือแหล่งรวมคนอย่างถนนข้าวสาร ที่มีให้เลือกกินตั้งแต่ผัดไทยรถเข็นไปจนถึงห้องแถวซอยรามบุตรี (แถว Swensen’s) ที่มี street food ให้เลือกเยอะเหลือเกิน สำหรับคนที่ผ่านถนนราชดำเนินบ่อยๆ ก็อาจสังเกตเห็นร้านอาหารสีขาวหน้าตาธรรมดา ร้านเดียวที่เปิดไฟสว่างจ้าในยามค่ำคืนในโซนใกล้กับโรงแรมรอยัล รัตนโกสินทร์ ร้านที่ว่าก็คือ สกายไฮ (Sky High) ร้านข้าวต้มเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 40 ปี แม้อาหารร้านนี้จะไม่ได้เด็ดดวงไปเสียทุกจาน แต่ร้านเล็กๆ เก่าๆ แห่งนี้ก็ทำให้เราหันกลับมามองถนนราชดำเนินดูเหมือนจะถูกลืมไปด้วยความที่ไม่ค่อยมีร้านอาหารอะไรให้กินนอกจากแม็คโดนัลส์ที่วงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หรือร้านหรูอลังของอย่าง เมธาวลัย ศรแดง ที่แย่งสปอตไลท์ไปซะหมด เสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่คือการเปิดทำการตั้งแต่ 8 โมงเช้าไปจนถึงตี 1 ทำให้คนผ่านไปมามีที่ให้นั่งกินข้าวต้มร้อนๆ ในห้องแอร์ บรรยากาศเหมือนหยุดเวลาไว้ในยุค 70 ซะแบบนั้น ทางเข้าร้านสีขาวบังคับให้เราเดินผ่านกองทัพอาหารที่เรียงรายยั่วใจ รอให้ลูกค้าเลือกจานโปรดของตัวเอง อาหารหน้าร้านก็จะเป็นจานคุ้นเคยของคอข้าวต้มที่มีตั้งแต่วัตถุดิบเช่นปลาอินทรีย์ไปจนถึงจานยำทั้งหลาย ผัดใบปอ ผัดหนำเลี๊ยบ รวมทั้งหม้อต้มตุ๋น (ตั้งไฟอุ่นไปเรื่อยๆ) ที่มีตั้งแต่ต้มพะโล้ไปจนถึงต้มจับฉ่าย

Read More