
มะม่วงปลาร้าโหน่ง กะเพราแห้ง และเอาะไข่ใส่ปลาร้าคืออร่อยเหาะ
–
พอได้ยินว่า เผ็ด เผ็ด ร้าน #อาหารอีสาน สุดเผ็ชในย่าน #อารีย์ เปิดสาขาใหม่แถวฝั่งธนฯ ที่แหล่งกินยอดฮิตอย่าง #ตลาดคลองลัดมะยม เราก็ใส่เข้าในลิสต์สิ่งต้องทำตอนปีใหม่แบบไม่ต้องคิดเยอะ (ไม่ใช่เรื่องเตรียมเช็คอินยิมไหนหรอกเราน่ะ) เพราะที่นี่ไม่ได้ขายเมนูเด็ดของเผ็ด เผ็ด อย่างเดียว แต่ ต้อม-ณัฐพงศ์ แซ่หู เชฟผู้เป็นคนต้นคิดเมนูจากบ้านเกิดนครพนม ได้หยิบความเป็นคลองมาเชื่อมโยงกับความเป็นท้องนาของภาคอีสาน พร้อมใส่ความทรงจำอาหารในวัยเด็กที่เคยกินเมื่อครั้งยังใช้ชีวิตย่ำในท้องนา จนออกมาเป็นจานชื่อแปลกหูจากวัตถุดิบง่ายๆ แต่อร่อยลืมเผ็ดไปเลยจา

เอาจริงๆ เราก็คิดเมนูที่อยากกินจากบ้านมาระดับหนึ่ง แต่พอเจอเมนูเล่มจริงที่ร้านก็ทำเอาเมนูในหัวกระเจิดกระเจิงไปหมด เพราะไม่ว่าจะเห็นจานไหนก็น้ำลายสอไปหมด พอรวบรวมสติได้ก็ถามน้องที่ร้านที่แนะนำมาหลากไอเดีย ซึ่งแน่นอนเราก็แอบเอาแต่ใจมาหลายจานเหมือนกัน

เอาแต่ใจสุดเห็นจะเป็นข้าวคั่ว #กากหมู (120 บาท) ที่ผัดมาแบบง่าย ๆ แต่ตักเพลินเกินอร่อยลืมข้าวเหนียวข้าวจี่ไปเลยเด้อ

แน่นอนว่าแซ่บสุดบนโต๊ะคือ #ตำมะม่วง ปลาร้าโหน่ง (120 บาท) มาพร้อมน้ำ #ปลาร้าโหน่ง สุดนัวเข้ากับความเปรี้ยวของมะม่วงเคี้ยวสนุกแข่งความกรุบของปลากรอบที่โรยมาในจาน ส่วนตำข้าวปุ้น (80 บาท) และตำปลาร้ากุ้งสด (160 บาท) ที่โรยเม็ดกระถินมาท่วมจานก็ทำต่อมน้ำลายเหนื่อยมาก น้ำลายพุ่งไม่หยุด แถมกุ้งก็สดเด้งสู้ฟันสุดอะไรสุด

มุดมาจานชื่อไม่คุ้นหูอย่างเอาะไข่ใส่ #ปลาร้า (130 บาท) ที่เราตัดสินใจลองเพราะอยากรู้รสชาติซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เอาะไข่ปรุงร้อนมาในกระทะหูจับแบบอบวุ้นเส้นที่เปิดมาพร้อมกับควันฉุย ส่วนความอร่อยทำเอาเรามองว่านี่เป็นมิติใหม่ของการกินไข่ตุ๋นชัด ๆ ตักไข่หอมปลาร้าและเต็มไปด้วยผักมากมายจนเราอยากลองทำกินที่บ้านบ้างเลยล่ะ

สิ่งที่ถูกใจเราไม่ได้มีแค่จานอีสาน เพราะจานเผ็ดเถื่อน ๆ อย่าง #กะเพราหมูสับ แบบแห้ง (150 บาท) ก็ทำเอาเรากลับมานอนคิดถึงที่นี่ เราชอบที่กะเพราผัดมาแบบคั่วแห้งจนความร้อนทำให้กลิ่นกะเพราหอมฉุนติดจมูกขึ้นมามากกว่ากะเพราผัดผสมซอสแบบที่เคยกินทั่วไป ส่วนซี่โครงคั่ว #มะแขว่น (150 บาท) แม้จะไม่ได้รสชาตามสไตล์มะแขว่นเท่าไหร่ แต่ความคั่วเข้มของพริกและกระเทียมให้ตักกินกลั้วไปด้วยคือดีลื้ม!

จานที่เรามองว่ามีความเป็นท้องนาจัดจ้านที่สุดก็คือป่นปูนาแมงดา (180 บาท) ที่เราว่าทำได้ถึงเครื่องถึงกลิ่นแบบไม่ต้องแอ๊บเสิร์ฟคนเมือง กลิ่น #แมงดา ฉุนสะใจคนชอบสุด ๆ (อีแหม่คือกด 3 ผ่านแบบรัว ๆ) ส่วนคนที่ไม่ถนัดแมงดาแนะนำให้ลองจานปลาอย่างนึ่งพุงปลาช่อนจิ้มแจ่ว (210 บาท) ที่มาพร้อมกับ #แจ่ว สามแบบ ที่ไม่ซ้ำกับแจ่วที่เสิร์ฟในจานย่างอย่างเนื้อบ่มเหล้า หรือคอหมูย่างอีกต่างหาก (คือเยอะแท้เนาะ!)

ส่วนขนมเบรกความเผ็ดที่นี่แม้จะมีให้เลือกแค่ 2 เมนูแต่เราว่าเอาอยู่ โดยเป็นเมนูสาคูเปียกลำไยสด กับ ไอติมกะทิเผือกกวนและสัปปะรดเชื่อม ซึ่งฟังชื่ออาจจะดูบ้าน ๆ แต่การเห็นสาคูเปียก (สาคูแท้จากต้น) เสิร์ฟกับกะทิข้นแบบยกมาทั้งแก้วคือแพ้ (เอาคอเลสเตอรอลเธอมาเลย) ส่วนความดีงามของไอติมคือความเปรี้ยวละมุนของสัปปะรดเชื่อมตัดกับความหวานของไอติมที่บาลานซ์ด้วยความจืดของเผือกอีกที
อิ่มลืมตลาดคลองลัดมะยมข้างๆ ไปเลยเด้อ
นี่ยังอีกหลายจานเด็ดเฉพาะของสาขานี้ที่เรายังไม่ได้ลอง ใครเคยไปเผ็ดเผ็ด Bistro แล้วไม่อยากต่อคิวนาน สุดสัปดาห์นี้ลองขับรถเลี้ยวมาอีกหน่อยรับรองไม่ผิดหวัง ปัก GPS คลองลัดมะยมแล้วขับตามได้เลย เตือนไว้ก่อนว่าร้านเล็ก ไปเนิ่นๆ ก็ดีนะ
Phed Phed Ground
ตลาดคลองลัดมะยมโซน 3 ถนนบางระมาด ตลิ่งชัน
เปิดทุกวัน 11:00 – 19:30 น.
โทร. 082-283-6965
www.phedphed.com
https://www.facebook.com/PhedPhedFood