เราคิดว่าน่าจะเป็นครั้งแรกของกรุงเทพฯ ที่มีสิ่งที่เรียกว่า Korean Omakase เกิดขึ้น (หลังจาก “โอมากาเสะ” เริ่มเป็นคำฮิตที่ขยายจากซูชิหน้าเชฟไปจนถึงคอร์สเนื้อ ไปจนถึงเครื่องดื่ม) แค่กินอาหารเกาหลีเป็นคอร์สก็ไม่ค่อยจะเห็นภาพแล้ว นี่เป็นแบบโอมากาเสะ เราก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่
เดินเข้าไปในสุดของร้าน Sukishi Prime ที่ CentralWorld เราจะเห็นเคาน์เตอร์ที่นั่งเรียงกันได้หกคน หันหน้าเข้าหาเชฟ อยู่หน้าป้ายไฟนีออนสีสันจัดจ้าน รูปสาวเกาหลีสวมแว่นลำกรอบสามเหลี่ยม ตัวแทนความจี๊ดของการหยิบอาหารเกาหลีมานำเสนอในรูปแบบใหม่ ๆ
ความเท่ของเจ้าเคาน์เตอร์นี้คือการมีเตาย่างหน้าเชฟไปเลยสามเตา ก็นี่มัน Sukishi จะขาดเตาย่างได้ไง และเชฟประจำจุดสามคน ที่รับรองว่าไม่ทำให้ใครในมื้อนั้นต้องรออาหารนานแน่ ๆ แถมพอนั่งปุ๊บ เครื่องเคียงก็วางรออยู่หน้าเราแล้ว (กิมจิ สลัดแตงกวา และปลาหมึกปรุงรส) และเราก็เริ่มมื้อด้วยเครื่องดื่มเกาหลีอย่าง Makgeoli
ช็อตประทับใจของเราคือตอนเชฟเอาเนื้อวากิว F1 สไลซ์บางย่างในเวลาหน่วยวินาที ห่อทรัฟเฟิลสดสไลซ์ เสิร์ฟกับเห็ดพอร์โทเบลโลย่าง ตัวเนื้อมีความแน่น ไม่มันมาก รสเข้ม ย่างสุกกำลังพอดีมาก ๆ และเห็ดฉ่ำ ๆ ลงตัวที่สุด!
อีกจานที่เป็นไฮไลต์สำหรับเราคือ “Best of Blue Fin” ชูโทโรจากทูน่าบลูฟินเซียร์บนหินร้อน เสิร์ฟกับรากบัวย่างเคี้ยวมัน เป็นเท็กซ์เจอร์ที่ชอบมากแบบไม่ค่อยเห็นร้านไหนทำ
ส่วนจานฟัวกราส์ก็ดีกว่าที่คิดมาก ฟัวกราส์นุ่มมันที่ย่างมาพอดีตัดกับขนมปังกรอบ ๆ เค็มตัดกับซอสราสป์เบอร์รี หวานนำ เปรี้ยวตาม
และที่ขาดไม่ได้คือบิบิมบัปหม้อดิน ที่อุ่นร้อนบนเตาย่างนั้นเลย ส่วนตัวเราว่าเท่มาก แต่ก็แลกกับการที่ไข่ 4 อย่างที่คลุกลงไปทั้งไข่ไก่ ไข่แซลมอน ไข่กุ้ง และคาเวียร์ เสิร์ฟต่อด้วยซัมเกทังไก่ดำ หอยเป่าฮื้อ หอม ๆ ซดอุ่น ๆ กำลังดีเลย!
โดยรวมแล้วเป็นโอมากาเสะ 15 คอร์ส ราคา 1,990 บาทที่อิ่มกำลังดี และถึงจะไม่ใช่ซูชิ แต่เรื่องวัตถุดิบคอร์สนี้ก็จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรมสดตัวโต ไข่หอยเม่น ไข่ปลาคาเวียร์ เนื้อวากิว ฟัวกราส์ หอยเป๋าฮื้อ ไก่ดำ นับว่าติ๊กครบทุกข้อเลยก็ได้
มีรอบเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์ 12:00 น. และ 18:00 น.
ถึงแค่สิ้นปีนี้เท่านั้น!
จองทาง Line: @sukishi หรือโทร.099-354-4596
Korean Omakase by Sukishi Prime
ชั้น 6 CentralWorld
โทร.099-354-4596