การกินเจเมืองตรังไม่ได้เป็นแค่เทศกาลกินผักให้ครบ 9 วัน 9 คืน แต่เป็นช่วงเดียวของปีที่ชาวเมืองจะมารวมตัวกันครั้งใหญ่เพื่อรักษาวิถีดั้งเดิมตามความเชื่อแบบลัทธิเต๋า จนกลายเป็นประเพณีที่ผูกจิตใจของชาวตรังเข้าด้วยกันในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่สำคัญที่สุด -------- เมื่อปี 2562 เรามีโอกาสได้เดินทางไปร่วมงานเทศกาลกินเจ ที่เมืองตรัง ซึ่งเราขอออกตัวก่อนเลยว่าการกินเจกับเราค่อนข้างห่างเหิน เราไม่ได้ถือสัมผัสกับการศีลกินผัก แต่เราสนุกกับอาหารการกินช่วงเจเหมือนกัน โดยเฉพาะเมนูดั้งเดิมที่ปรุงด้วยวัตถุดิบเรียบง่ายอย่างเต้าหู้ แป้ง และผักชนิดต่าง ๆ มากกว่าโปรตีนหลากชนิดที่มีให้เลือกมากมายในยุคนี้ แล้วพอเจ้าบ้านที่ตรังออกปากชวนให้ตามไปดูวัฒนธรรมการถือศีลกินผักของเมืองตรัง ซึ่งถือว่ามีความดั้งเดิมที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้ ทำให้เราตกปากรับคำแทบไม่ต้องคิด วัฒนธรรมการถือศีลกินผักของตรังมากับบรรพบุรุษจีนเชื้อสายฮกเกี้ยนเมื่อครั้งอพยพมาตั้งรกรากที่เมืองตรัง จนกลายเป็นประเพณีฝังรากลึกของชาวจีนในจังหวัดตรัง เป็นการรวมตัวกันเพื่อแสดงความสามัคคี แสดงความศรัทธาต่อเทพ ไม่ว่าจะเป็นชาวตรังที่อาศัยในจังหวัด และชาวตรังที่จากบ้านไปอยู่ที่อื่นก็จะกลับมาในช่วงนี้มากกว่าเทศกาลปีใหม่ หรือตรุษจีนซะอีก เรียกว่าเป็นการรวมญาติคนตรังพร้อมหน้าที่สุดในรอบปีเลยล่ะ ความตั้งใจของเราในการไปเยือนตรังครั้งนี้คือไปดูประเพณีถือศีลกินผัก และอาหารการกินในช่วงกินเจที่เราได้ไปสัมผัสมาในช่วงสั้น ๆ
ทริปหัวหินเราจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป! หลังจากที่เราได้ไปร่วมงานเชฟส์เทเบิลคอนเซปต์ดีงามอย่าง “Taste of Prachuap ทุกความอร่อย มีเรื่องราว” ก็ทำเราเอาแต่มองหาแต่ของอร่อยที่เป็นไอเท็มเด็ดจากจังหวัดนี้แบบไม่รู้ตัว บอกตรงๆ เลยว่าพอเราได้ชิมเมนูไฮไลท์ในวันเปิดตัวแล้วทำเรามือสั่นอยากจองไปกินจานโปรดอีกรอบ Taste of Prachuap เป็นโปรเจคของ ททท. ที่ทำเอาเหล่าฟู้ดฮันเตอร์ทั้งหลาย รวมทั้งเราต้องตาวาว เพราะเป็นการนำ 8 เชฟไฟแรง ที่มีทั้งเชฟดังในหัวหิน และเชฟจากกรุงเทพฯ ผู้เคยผ่านรายการแข่งขันสุดฮิตอย่างท็อป เชฟ ไทยแลนด์ หมุนเวียนทำดินเนอร์สไตล์ Chef’s Table ที่เมืองหัวหินเดือนละครั้ง แต่จะเป็นเชฟเทเบิลส์เปล่าๆ ก็ไม่สนุก โจทย์ (ที่เข้มข้นประหนึ่งการแข่งขัน)
นอกจากกรุงเทพฯ หรือเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ อย่างเชียงใหม่ ภูเก็ตแล้ว ค่อนข้างยากที่จะหาเชฟทำอาหาร Fine Dining จริงจังในเมืองหัวเมืองอื่นๆ แต่ก็ใช่ว่าจะหาไม่ได้เลย เพราะช่วงหลังๆ มีเชฟเก่งๆ ที่ตัดสินใจกลับบ้าน หรือเลือกย้ายไปอยู่จังหวัดอื่นเพราะเหมาะกับการทำตามความฝันตัวเอง หนึ่งในนั้นคือเชฟก้อง-ก้องวุฒิ ชัยวงศ์ขจร อดีตเชฟอาหารญี่ปุ่นที่หันเข็มทิศตัวเองจากบ้านเกิดในกรุงเทพฯ ไปอยู่เชียงใหม่ ก่อนจะพบรักกับสาวเชียงรายและเลือกลงหลักปักฐานที่นี่พร้อมตั้งร้านอาหาร Locus Native Food Lab ขึ้นมาเพื่อนำเสนออาหารเหนือที่เขามองว่ามีคุณค่าและน่านำเสนอในรูปแบบใหม่ เวลาผ่านไป 3 ปี ร้านกลายเป็นหนึ่งในหมุดหมายของนักชิมที่เดินทางไปจังหวัดเหนือสุดของไทยเพื่อให้ได้กินอาหารพื้นถิ่นแต่หน้าตาต่างถิ่น แถมยอดจองยังแน่นกันแบบข้ามเดือน บางคนถึงกับยอมบินไปเสาร์กลับอาทิตย์เพื่อให้ได้กินร้านนี้ ล่าสุดเชฟย้ายร้านไปอยู่โลเคชั่นใหม่ในพื้นที่ของรีสอร์ทไฮเอ็นด์อย่างป่าสักทอง ตัวร้านแม้จะเหมือนถอดร่างเดิมไปตั้งที่ใหม่ทั้งในเรื่องหน้าตาและการตกแต่ง แต่สิ่งที่แตกต่างคือประสบการณ์ด้านบริการซึ่งตั้งใจออกแบบให้มีความพิเศษขึ้นและเน้นลงรายละเอียดด้านบริการขึ้น แต่ยังคงความเรียบง่ายในแบบปรัชญาของโลกุษ
ชมกังหันลมเขายายเที่ยง พร้อมวิวสวย ๆ บนสันเขื่อน ที่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา
ทริปลอนดอนที่ผ่านมา เราปักหมุด Bao เป็นหนึ่งในร้านที่อยากไปมาก ๆ ด้วยความที่ร้านมีหลายสาขา เราก็กะว่าจะเลือกไปสาขาใดสาขาหนึ่งเพื่อลองให้รู้รสเฉย ๆ แต่กลายเป็นว่าดีจนต้องกลับไปซ้ำอีกสาขา! สำหรับใครที่เพิ่งเคยได้ยินชื่อร้านนี้เป็นครั้งแรก Bao เป็นร้านอาหารเอเชียที่มีเมนูชูโรงคือ แซนด์วิชซาลาเปาสไตล์ไต้หวันใส่ไส้ต่าง ๆ เปิดทำการที่ลอนดอนครั้งแรกเมื่อปี 2013 และได้รับการตอบรับดีมากจนตอนนี้มีถึง 3 สาขา กับหนึ่งคีออส (แถมคลอดร้านพี่น้องออกมาอีกแบรนด์) แม้ร้านจะไม่รับจองโต๊ะ และต้องมาต่อคิวหน้าร้านเท่านั้น ประชากรชาวลอนดอนและนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ก็พร้อมใจกันไปต่อแถวยาวหางว่าวเพื่อให้ได้ชิม สาขาแรกที่ไปกินก็คือ Bao Soho เป็นร้านเล็ก ๆ ใน
48 Hours in Helsinki [Spreads x POHZ] ขาว หนาว ฟิน เฮลซิงกิ 48 ชั่วโมง หลังจากที่พาไปชมเกาะ Suomenlinna มาก่อนแล้ว ก็ได้ฤกษ์ไปเหยียบเมืองหลวงของฟินแลนด์อย่างเฮลซิงกิ ที่เราเลือกใช้เวลาไม่มากไม่น้อยอยู่ 2 วัน แต่เต็มอิ่มทั้ง 48 ชั่วโมง ก่อนเดินทางไปก็คิดว่าอากาศคงจะไม่หนาวเท่าไร เพราะเป็นช่วงย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ คงไม่มีหิมะให้ดู แต่พอมองผ่านหน้าต่างเครื่องบินออกไปตอนแลนดิ้งก็เห็นเมืองขาวโพลนปกคลุมไปด้วยสีขาวของหิมะทั้งเมือง ความหนาวยังไม่ปะทะกับเราจนนั่งรถไฟถึงตัวเมืองแล้วพบว่าลมแรงจนจะแข็งตายได้ที่หน้าสถานีรถไฟ แต่นั่นยังไม่พีคเท่ากับการเดินลากกระเป๋าเดินทางไปยังโรงแรมที่แสนจะทุลักทุเลเพราะบนทางเท้าที่เต็มไปด้วยก้อนกรวด แต่แน่นอน ความหนาวเหน็บแค่ไหนก็หยุดเราไม่ได้ เพราะทันทีที่ถึงโรงแรม เราก็เปิดกระเป๋าดึงโค้ชตัวหนามาสวมก่อนออกไปพักจิบกาแฟกินครัวซองต์ พร้อมตั้งสติและวางแผนเที่ยว ใช่! วางแผนกันตอนนี้แหละ! DAY
นิทรรศการ Louis Vuitton Time Capsule เราไม่เคยรู้มาก่อนว่ากระเป๋าแบรนด์ที่ติดภาพความหรูหราอย่างหลุยส์ วิตตอง ที่จริงแล้วมีจุดเริ่มต้นจากการทำกระเป๋าหีบ (ใช่ กล่องสี่เหลี่ยมใหญ่ ๆ นั่นแหละ) แล้วก็ผลิตกระเป๋าที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานมาก ๆ จนกระทั่งได้ไปนิทรรศการ Time Capsule ของ Louis Vuitton ที่ลานสยามพารากอน ฃ งานนี้ขนประวัติศาสตร์กระเป๋าหลุยส์มาหมดตั้งแต่เริ่มต้น สมัยคุณหลุยส์แกเริ่มทำหีบใหม่ ๆ จนค่อย ๆ แตกไลน์เป็นหีบเฉพาะทางมากขึ้น ทั้งหีบตู้เสื้อผ้า หีบปิกนิก หีบเกมคาสิโน