นาทีนี้สายขนมคงต้องเคยได้ยินชื่อ Montagne (มงตาล) มาบ้างแหละ ไม่ว่าจะมาจากชื่อเสียงของเชฟปูน-ภูผา ชุณหรัศมิ์ แชมป์ของรายการ Sweet Chef ประเทศไทย หรือขนมเปิดตัวอย่าง cube ซีรีส์ขนมในกล่องไม้ ไปจนถึงเค้กที่สวย อร่อย แต่จองยากพอสมควร และล่าสุด—เปิดหน้าร้านเป็นของตัวเองแล้ว
Montagne เป็นร้านไอศกรีม
เราถูกย้ำมาแบบนั้น ทั้งจากตู้ไอศกรีมที่มีรสต่าง ๆ อัดแน่นถึง 20 รส ตัวขนม plated dessert ที่มีไอศกรีมเป็นพระเอก และจากการที่เชฟปูนเองตั้งใจอยากเปิดร้านไอศกรีมมาตั้งแต่ต้น
ในร้านขนาดประมาณยี่สิบคนนั่ง ทุกอย่าง (นอกจากรายชื่อรสไอติม) ดูกะทัดรัดไปหมด รวมถึงเมนู Plated dessert (ขนมจัดจานเสิร์ฟ และแน่นอนว่ามีไอติมเป็นส่วนประกอบ) และเครื่องดื่มที่มีให้เลือกหมวดละ 3-4 รายการ บอกไว้ก่อนเลยว่าที่นี่ไม่มีกาแฟนะ เผื่อใครต้องการคาเฟอีนประจำวัน ควรหาเติมไปก่อน
ใครชอบดูเชฟทำขนม แนะนำให้ไปนั่งที่บาร์ ได้อารมณ์แบบ dessert bar เพลิน ๆ เราสังเกตว่า plated dessert ของเชฟเน้นรสชาติคลาสสิก เข้าถึงง่าย แต่ก็สัมผัสได้ถึงความตั้งใจใส่เลเยอร์และหยิบเท็กซ์เจอร์มาเพิ่มมิติให้พิเศษขึ้น
อย่าง Choux à la noisette (270 บาท) ก็เป็นตัวแทนของคอมโบรสชาติช็อกโกแลต-เฮเซลนัตที่คุ้นเคย แต่แทรกมิติเท็กซ์เจอร์นุ่ม เนียน นิ่ม กรอบ กรุบไว้อย่างลงตัว พร้อมความเย็นของไอศกรีมที่มาเป็นโบนัส และการจัดจานที่สวยงาม เริ่มจากแป้งชูผ่าครึ่ง ที่ใส่ไส้ทั้ง chocolate feuiiletine กรุบกรอบ โปะไอติมเฮเซลนัตสกูป บีบครีมช็อกโกแลตวนรอบปาก แล้วเติมพราลีนไปอีกหน่อย ก่อนจะปิดฝาและแต่งด้วยแท่งช็อกโกแลต ถั่วเฮเซลนัต และแต้มพราลีนแปะทองอีกนิดหน่อย
ส่วน Vacherin (270 บาท) ก็เป็นคู่คลาสสิกอย่างวานิลลา-เบอร์รี ที่มาในฟอร์มของไอศกรีมวานิลลาซ้อนบนซอร์เบต์ราสพ์เบอร์รี ทับด้วยแผ่นเมอแรงก์ แต่เหนือไปกว่านั้นก็คือการซ้อนมิติด้วยครีมวานิลลากับซอสเบอร์รีด้านล่างอีกที และเสิร์ฟพร้อมเบอร์รีสด เพิ่มความฉ่ำของแต่ละคำ พร้อมขับเน้นรสชาติแต่ละองค์ประกอบที่ชัดเจนขึ้นไปอีก ความพิเศษของจานนี้คือรสชาติวานิลลามาแบบชัดเจนแต่ไม่แรงเกินจนรู้สึกปลอม ตัดความจี๊ดจ๊าดของเบอร์รีให้ละมุนดีเลย
ถ้าไม่อยากกินเป็นจานจริงจังขนาดนี้ ก็ยังสามารถชิมฝีไม้ลายมือของเชฟปูนได้จากเมนู creation ice cream ที่เติมองค์ประกอบลงไปเพิ่มมิติให้สกู๊ปไอติมถึงในถ้วย ใครเป็นสาวกวานิลลา ต้องลองชิม Millefeuille ที่เชฟเลือกครีมวานิลลากับแผ่นแป้งฟิลโลบางกรอบมาร่วมถ้วยกันกับสกูปไอศกรีมวานิลลาเข้มข้น
และอย่างที่เราเกริ่นไปว่าร้านนี้ไม่มีกาแฟ ซึ่งเป็นเรื่องดี เพราะว่าม็อกเทลที่ร้านนี้ควรค่าแก่การสั่งมาก ๆๆๆๆๆๆ ถึงขั้นที่เราหันไปบอกเพื่อนว่าไม่เคยกินม็อกเทลในร้านขนมที่ดีขนาดนี้ (จนสืบสาวราวเรื่องไปได้ว่า ที่นี่ได้บาร์เทนเดอร์มืออาชีพอย่าง ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ มาช่วยคิดเมนูเครื่องดื่ม)
แก้วที่เราว่าเด่นมาก ๆ คือ Light Beaujolais (140 บาท) ที่รวมรสชาติของชาบาร์เลย์ ราสพ์เบอร์รี กระเจี๊ยบ และอบเชยไว้ด้วยกัน กลิ่น smokey ของทั้งชาบาร์เลย์และอบเชยมันรวมกันพอดี แล้วมาจับคู่เสริมรสเบอร์รีในด้านอุ่น ๆ ร้านแนะนำให้จิบคู่กับขนม Vacherin ซึ่งเราว่าเหมาะเลย
ส่วนใครชอบความสดชื่น ลอง Rose de Provence (140 บาท) ที่หยิบโรสแมรี ลาเวนเดอร์ และขิงมาไว้ในแก้วเดียว และถ้าชอบดื่มอะไรเปรี้ยวหวาน Saint Tropez Time (160 บาท) ก็คือสับปะรด เสาวรส น้ำมะพร้าว ในเวอร์ชันมีความละมุนจาก clarified milk ไปเสริมบอดี้ด้วย
โดยรวมแล้วเราว่า Montagne เป็นร้านที่เด่นเรื่องการหยิบรสชาติ และเล่นกับเท็กซ์เจอร์ให้ขนมได้อย่างน่าสนใจมาก ๆ เราดีใจที่เชฟเลือกเปิดร้านไอติม เลยเหมือนได้กินขนมสไตล์ entremet ดี ๆ ที่มีเท็กซ์เจอร์ไอติมเป็นส่วนผสม แบบที่ไม่ค่อยเจอในกรุงเทพฯ
แถมยืนส่องริมตู้ไอติมแล้วก็ยังมีรสที่อยากลองอีก ทั้ง Fleur de Benjamas (โยเกิร์ตเก๊กฮวยขาว) Carrot Orange Gingembre (ซอร์เบต์แครอต ส้ม ขิง) Malt Granola และอีกมากมาย ต้องไปอีกแน่ ๆ
ร้านมีพื้นที่ไม่เยอะ แนะนำให้จองโต๊ะและขนมเพลตก่อนไปนะ
Montagne
106 ถ. เจริญราษฎร์
โทร. 0841146415
เปิด จันทร์, พฤหัส, ศุกร์ 13:00-22:00 น.; เสาร์-อาทิตย์ 10:00-22:00 น.
https://www.facebook.com/Montagne.bkk
อ่านเพิ่มเติม