ข้ามเจ้าพระยาไปจิบน้ำชายามบ่ายที่รวมทั้งชา ขนม ศิลปะ และเทคโนโลยี AR เข้าด้วยกัน
จิบน้ำชายามบ่ายพร้อม AR ที่พาเราไปเข้าป่าหิมพานต์ ชมดอกไม้ในวรรณคดี และฟังเสียงคำรามจากราชสีห์ที่ส่งเสียงคำรามดังไกลไปสามโยชน์
นอกจากเจริญกรุงจะคึกคักแล้วจากการที่ร้านรวงมาเปิดกันแทบทุกเดือน ข้ามฝั่งแม่น้ำมาถนนเจริญนครก็มีอะไรให้เราได้มาอัพเดทด้วยเหมือนกัน อย่างเช่นกิจกรรมล่าสุดจากโรงแรม Peninsula Bangkok ที่เปิดตัว Triple A: Afternoon Tea, Art, AR เทคโนโลยี ที่จับศิลปะในจินตนาการมาผสมกับศิลปะบนจานขนม
ไม่ใช่จะเห็นบ่อยที่โรงแรมใหญ่ ๆ จะขยับมาเล่นอะไรล้ำ ๆ กับเทคโนโลยี แต่ไม่ใช่กับโรงแรมเพนินซูลา กรุงเทพฯ ที่คราวนี้เลือกทำอะไรที่แตกต่างด้วยการนำเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) มาใส่ในเซ็ตขนมหวานอย่างชุดน้ำชายามบ่ายที่ไม่ได้ออกแบบธรรมดา แต่ยังเป็นการชวน นัส-พิชญา โอสถเจริญผล นักออกแบบสาวที่เคยทำงานกับแบรนด์ Disaya ซึ่งตอนนี้หันมาทำงาน AR เพื่อต่อยอดจินตนาการของเธอมากขึ้น
สำหรับคนที่ยังข้องใจว่า AR (augmented reality) กับ VR (virtual reality) ต่างกันยังไง เล่าง่ายๆ ก็คือ VR เป็นการสร้างโลกเสมือนจริงขึ้นมาโดยใช้ผ่านเครื่องมือเช่นมือถือหรือเกมคอนโซล ในขณะที่ AR คือการที่เราใส่ลูกเล่นเข้าไปในโลกจริงที่อยู่ตรงหน้าเราโดยใช้เครื่องมือมาช่วยเช่นกล้องของโทรศัพท์มือถือเรา
นัสเล่าให้ฟังว่า เธอเริ่มทำศิลปะกับ AR มาได้ประมาณ 2 ปีแล้วเพราะรู้สึกว่าอยากลองเล่นอะไรใหม่ๆ กับงานศิลปะตัวเองบ้าง ก่อนจะบอกที่มาของการออกแบบในครั้งนี้ว่ามาจากความหลงใหลในเรื่องราวล้ำจินตนาการของไตรภูมิพระร่วงและป่าหิมพานต์ที่เธอชอบอ่าน ก่อนที่เธอจะเลือกสัตว์ในวรรณคดีอย่างไกรสรสีหะ ราชสีห์เจ้าแห่งสัตว์ทั้งปวงมาเป็นดาวเด่นในงานศิลปะบนกาน้ำชาที่มาพร้อมกับเสียงคำราม ซึ่งตามวรรณคดีคือดังไกลถึงสามโยชน์ หรือเทียบเท่าเกือบ 50 กิโลเมตร ส่วนเสียงในมือถือของเราแม้จะไม่ได้ดังไกลสามโยชน์ แต่ก็ถือว่าคำรามดังพอที่เราจะจินตนาการได้ถึงความทรงพลังของไกรสรสีหะที่ดังไกลไปสามโต๊ะ!
นอกจากราชสีห์แล้ว นัสยังออกแบบดอกไม้ในวรรณคดีมาอยู่ในเซ็ตด้วย ว่าไม่ว่าจะเป็นดอกกฤษณา ดอกกระดังงา หรือดอกนมแมว ที่เราเห็นลายเส้นของนัสแล้วบอกได้เลยว่าตกหลุมรัก แถม AR ยังทำให้สนุกไปอีกขั้นเพราะสามารถทำให้เราเห็นกลีบดอกแต่ละใบที่ขยับพริ้วไหวได้อย่างใกล้ชิด ไม่นับรวมเหล่ากินรีที่จะเผยตัวตนหลังเรายกกล้องเล่นกับผีเสื้อ
สังเกตให้ดีเหล่ากินรีทั้งหลายจะถือมาการองในมือด้วย!
แน่นอนว่าจินตนาการถูกถ่ายทอดลงบนขนมที่นัสทำงานร่วมกับหัวหน้าเชฟขนมหวานของเพนินซูลาอย่าง เชฟนิโคลาส์ เพลลัวร์ ที่เอาสีสันของงาน AR และภาพวาดที่นัสออกแบบมาสร้างสรรค์รสชาติและสีสันของขนมในเซ็ตขนมที่เชฟบรรจงทำออกมาให้แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นมาการองที่ถูกเสิร์ฟมาในจานของคาวแทนที่จะเป็นของหวาน เพราะเชฟตั้งใจแหวกขนบทำมาการองไส้เจลปูแบบหวานน้อยกินอร่อยไปอีกแบบ
ทีเด็ดยังอยู่ที่ตอนสุดท้าย เพราะโครงการนี้เป็นหนึ่งใน “Artist in Residence” ซึ่งทางโรงแรมฯ ได้แปลงโฉมห้องสวีทของโรงแรมเป็นแกลเลอรีส่วนตัวของนัสที่นำผลงานออกแบบของเธอ ทั้งภาพวาด กระเป๋า วอลเปเปอร์ ไปจนถึงผ้าคลุมโซฟาและผ้าปูที่นอนที่เป็นลายเส้นของนัสทั้งหมด
มาออกเดินทางสู่โลกแห่งจินตนาการพร้อมอ่านรายละเอียดในแคปชั่นแต่ละภาพได้เลย
Triple A: Afternoon Tea, Art, AR
เวลา 12:00-18:00 น.
ราคา 1,600++ บาท สำหรับ 2 คน (ชมสตูดิโอทุกวันพุธ วันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 15:30 น.) ให้บริการ AR ถึงวันที่ 12 ส.ค.นี้
The Peninsula Bangkok
ที่อยู่ 333 ถนนเจริญนคร คลองสาน
(แนะนำให้ขึ้น BTS ไปลงสถานีตากสินและขึ้นเรือโรงแรมเพนินซูลามาสะดวกสุด หรือใครสะดวกขับรถก็ไปที่โรงแรมได้เลย)
โทร. 02-020-2888